1. ทนต่ออุณหภูมิ -30ºC ถึง +70ºC สามารถรับน้ำหนักกระเบื้องในแนวตั้งได้มากสุด 30 กก. ต่อ ตร.ม.
2. การยึดเกาะในที่แห้ง มากกว่า 0.5 MPa (N/mm2) 3. การยึดเกาะในที่เปียก มากกว่า 0.5 MPa (N/mm2)

หมายเหตุ : ผลการทดสอบเหล่านี้ได้มาจากห้องทดลองตัวอย่าง อาจจะแตกต่างกับผลที่ได้จากการผสมที่หน่วยงาน เนื่องจากวิธีการใช้และสภาพของหน่วยงานที่แตกต่างกัน

4. กาวซีเมนต์ที่ผสมแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 4 ชม.
5. ช่วงเวลาที่ใช้ระหว่างปาดกาวซีเมนต์จนถึงปูกระเบื้อง 20 ถึง 30 นาที
6. การจัดและปรับแต่งแนวกระเบื้อง สามารถทำได้ภายใน 15 นาที

1. ใส่น้ำสะอาด 6.25 ลิตร (1 ส่วน) อุณหภูมิของน้ำปกติ (ไม่ใช่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน) ลงในถังน้ำที่เตรียมไว้
2. ค่อยๆ ใส่กาวซีเมนต์ เวเบอร์.ไทล์ ฟิกซ์ 25 กก. (4 ส่วน) ลงในน้ำ ขณะเดียวกัน คนให้ทั่วจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน โดยสัดส่วนการผสมคือ 1 : 4 โดยน้ำหนัก หรือกรณีใช้การตวง สัดส่วนคือ 1 : 3 โดยปริมาตร การผสมควรใช้เครื่องปั่นปั่นให้ทั่วจนเป็นเนื้อเดียวกัน ควรปั่นที่ความเร็วต่ำ (500 รอบต่อนาที)
3. ในกรณีที่ใช้เกรียงใบโพธิ์ ควรผสมกาวซีเมนต์กับน้ำทีละน้อย เพื่อให้สามารถผสมได้ทั่วจนเป็นเนื้อเดียวกันอย่างทั่วถึง ถ้ากาวซีเมนต์ยังจับตัวเป็นก้อน ต้องคนต่อไปจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
4. หลังจากผสมกาวซีเมนต์ให้เข้ากันดีแล้ว ควรทิ้งไว้ 3-4 นาที ก่อนใช้งานเพื่อให้สารเคมีในกาวซีเมนต์ทำปฏิกิริยากับน้ำ
5. กาวซีเมนต์ เวเบอร์.ไทล์ ฟิกซ์ ที่ผสมอยู่ในถังแล้ว สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชม. แต่ต้องเก็บไว้ให้ห่างจากแสงแดดและความร้อน
6. ปาดกาวซีเมนต์บางส่วนลงบนพื้นผิวด้วยเกรียงใบโพธิ์หรือเกรียงหวี และใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นทางยาวบนพื้นผิว 1 ถึง 2 ตร.ม. แล้วเกลี่ยให้ทั่ว ความหนาตามร่องของเกรียงหวีที่ใช้ เพื่อเป็น การควบคุมปริมาณกาวซีเมนต์ที่ใช้ให้สม่ำเสมอ (ไม่มากหรือน้อยเกินไป)

สำหรับพื้น : ใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นผิว

สำหรับผนัง : ใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์เป็นแนวนอน (ตามรูป) บนพื้นผิว

7. การปูกระเบื้องด้วยเกรียงหวีจะทำให้ปริมาณกาวซีเมนต์แทรกซึมตามผิวกระเบื้องและพื้นผิวได้ดี (% transfer) กว่าการใช้เกรียงใบโพธิ์
8. ในกรณีปูกระเบื้องขนาดใหญ่กว่า 25 x 25 ซม. (10 x 10 นิ้ว) ควรปาดกาวซีเมนต์ลงบนหลังกระเบื้องให้ทั่วเล็กน้อย เพื่อแน่ใจว่าได้ปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นผิวอย่างทั่วถึงและไม่มีช่องอากาศว่างเหลืออยู่เมื่อปูกระเบื้องเสร็จ
9. ช่องอากาศใต้พื้นกระเบื้อง มีผลทำให้กระเบื้องเปราะและน้ำสามารถไหลซึมเข้าไปได้
10. ปูกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์และกดให้แน่น หรือใช้ค้อนยางเคาะบนกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อให้ร่องของกาวซีเมนต์ที่แผ่นกระเบื้องกดทับประสานกันอย่างทั่วถึง เว้นช่องว่างระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่น เพื่อให้เป็นร่องยาแนว (อย่างน้อย 2 มม.)
11. ในกรณีที่กาวซีเมนต์ล้นขึ้นมาที่ร่องยาแนว ควรเช็ดออกเพื่อรักษาช่องของร่องยาแนวไว้ ถ้าแผ่นกระเบื้องเลอะกาวซีเมนต์ ควรเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาดๆ ขณะที่กาวซีเมนต์ยังเปียกอยู่
12. หากต้องการจัด หรือปรับตำแหน่งกระเบื้องเมื่อปูเสร็จด้วยกาวซีเมนต์ เวเบอร์.ไทล์ ฟิกซ์ สามารถปรับตกแต่งกระเบื้องแต่ละแผ่นภายใน 15 นาที ก่อนกาวซีเมนต์จะแห้งสนิท
13. ทิ้งให้กาวซีเมนต์แห้งประมาณ 24 ชม. ก่อนการยาแนว
14. ควรเลือกยาแนวของ เวเบอร์ ที่เหมาะสมกับงาน ยาแนวของ เวเบอร์ มีหลายชนิด และหลากสีให้เลือกตามขนาดของร่องยาแนว และลักษณะของสถานที่

1. ก่อนยาแนวร่องกระเบื้อง ควรทิ้งให้กาวซีเมนต์แห้งอย่างน้อย 24 ชม.
2. หลังจากปูกระเบื้องเสร็จ ควรทิ้งเอาไว้ 24 ถึง 48 ชม. ก่อนเปิดใช้งาน
3. ความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบนพื้นผิว 2 ถึง 10 มม.
4. ขนาดบรรจุ 25 กก./ถุง

เหมาะสำหรับปูกระเบื้องดูดซึมน้ำบนพื้นและผนังซีเมนต์
1. มีสารยึดเกาะพิเศษ ทำให้เวลาปูกระเบื้องบนผนัง กระเบื้องไม่ลื่นไหล
2. กระเบื้องติดแน่น ไม่หลุดร่อน
3. ใช้ง่าย เพียงเติมน้ำ และผสมให้เข้ากัน

weber

เวเบอร์ ไทล์ ฟิกซ์,เวเบอร์, ไทล์, ฟิกซ์