ยังคงเป็นไอเดียที่ใหม่สำหรับประเทศไทย กับแนวคิดนำ "เหล็ก" มาก่อสร้างที่อยู่อาศัยแทน "ไม้ธรรมชาติ" ทำให้ปัจจุบันจึงยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก

อาจเป็นเพราะความไม่มั่นใจและขาดข้อมูลที่เพียงพอมาช่วยหนุนว่า "เหล็ก" สามารถนำมาสร้างบ้านได้เกือบทั้งหลัง และมีความยืดหยุ่นและคงทนมากกว่าการก่อสร้างบ้านจาก "ไม้ธรรมชาติ" แถมยังออกแบบดีไซน์ได้ตามใจ รวมถึงประหยัดเวลาก่อสร้าง คงทนถาวรมากกว่างานไม้หลายเท่า ที่สำคัญลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ เพราะการสร้างบ้านเหล็กจะใช้คนไม่มากเท่ากับการก่อสร้างบ้านแบบปกติ เนื่องจากสามารถประกอบที่โรงงานได้

จากข้อดีดังกล่าวทำให้ "วงการสถาปนิก" เริ่มหันมาใช้โครงสร้างจากเหล็กเข้ามาเป็นวัสดุหลักผลิตผลงานเพิ่มมากขึ้น และมีแผนจะขยายไอเดียออกไปสู่การรับรู้ของผู้บริโภคเพิ่มเป็นวงกว้างมากขึ้น

จึงเป็นที่มาเวทีเสวนาเรื่อง "บ้านเหล็ก...แนวโน้มการพัฒนาบ้านพักอาศัยในอนาคต"

มีสถาปนิกระดับท็อปไฟฟ์ของประเทศ มาสร้างความมั่นใจกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

"ประภากร วาทยากุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท A49 Architect จำกัด บอกว่า ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบงานก่อสร้างทำจากเหล็กทั้งหลังมานานแล้ว เพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ดัดแปลงใช้งานได้ตามความต้องการ

และก่อสร้างได้เร็วแค่ 6-7 เดือนเท่านั้น เช่น งานระเบียงที่มีความกว้าง 8 เมตร หากก่อสร้างปกติต้องมีเสาคานรองรับทำให้เสียพื้นที่ใช้สอยไปบางส่วน หากสร้างจากเหล็กปัญหานี้จะหมดไปทันที

"สร้างบ้านจากเหล็กขึ้นอยู่กับจะดีไซน์ออกมาอย่างไร ไม่ต้องกังวลเรื่องความแข็งแรงทนทานจากแรงสั่นไหว เพราะได้คำนวณตามมาตรฐานของกฎหมายรองรับอยู่แล้ว กรณีเกิดแผ่นดินไหวงานเหล็กมีความยืดหยุ่นมาก เพราะสั่นแล้วไม่พังเหมือนงานคอนกรีตทั่วไปที่มีความยืดหยุ่นต่ำกว่ามาก แต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่ทำให้การใช้ยังไม่แพร่หลาย เพราะมีต้นทุนที่สูงกว่างานคอนกรีตโดยทั่วไปประมาณ 20% และยังขาดการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจังจากหน่วยงานของภาครัฐช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม"

สอดคล้องกับความเห็นของ "บุณเลิศ เหมวิจิตรพันธ์" สถาปนิกใหญ่ บริษัท Boon Design จำกัด กล่าวว่า ถึงการสร้างบ้านเหล็กราคาแพงกว่าปกติ แต่ตอบสนองความต้องการได้มากกว่า ใช้แรงงานน้อยและติดตั้งได้เร็วกว่า มีดีไซน์สวยงามและสอดคล้องกับภูมิทัศน์รอบ ๆ ตัวบ้าน

"บ้านที่สร้างจากเหล็กมันทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นมาก สามารถคำนวณได้แม่นยำกว่างานคอนกรีต ในต่างประเทศนิยมมานานแล้วทั้งในรูปแบบที่พักอาศัยและอาคารสูง เพราะสามารถสร้างความสูงได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน"

คงต้องลุ้นกันต่อ ไอเดียเหล่าสถาปนิกที่ถ่ายทอดครั้งนี้จะได้มีการต่อยอดให้มากขึ้นอีกหรือไม่



ที่มา  :  29 ส.ค. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น