SIRI โชว์ผลงานไตรมาสแรก ปี 2555 โกยยอดขายแล้วกว่า  12,000 ล้านบาท  หลังปรับเป้า 3 ครั้งใน 3 เดือน การันตียอดขายทั้งปี 32,000 ล้าน โดยผู้บริหาร "เศรษฐา  ทวีสิน" ระบุ ตุนงานในมือกว่าแล้วกว่า 35,000 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ทั้งปี 55 จำนวนกว่า  20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของเป้าหมายรายได้จากการขายทั้งปี

นายเศรษฐา  ทวีสิน  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)   หรือ SIRI   เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทสามารถปิดยอดขายได้สูงถึง 12,000 ล้านบาท หลังจากที่มีการขยับเป้าหมายยอดขายถึง 3 ครั้ง จากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทสามารถปิดยอดขายได้ไตรมาส 1/2555 ได้รวม 12,000 ล้าน ซึ่งนับว่าเป็นการทุบสถิติการสร้างยอดขายสูงที่สุดที่บริษัทสามารถทำได้ภายในไตรมาสเดียว

"กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และการประสบความสำเร็จจากการรุกตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่จ.ภูเก็ต อาทิ  การปิดการขายโครงการโครงการคอนโดมิเนียม HQ ทองหล่อ ใน 1 วัน และการปิดการขายโครงการ ดีคอนโด กะทู้ - ป่าตอง โครงการที่ 2  ที่จ.ภูเก็ตได้รวดเร็วต่อเนื่อง รวมถึงความสำเร็จจากงาน แสนสิริ ไลฟ์คัมส์โฮม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนและมีความมั่นใจกับเป้าหมายยอดขายไตรมาสแรกรวมทั้งยอดขายรวมในปีนี้ที่ตั้งไว้32,000ล้านบาท" นายเศรษฐา กล่าว

โดยในปี 2555 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายประมาณการยอดขายรวมไว้เป็นมูลค่าสูงถึงกว่า 32,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2554 ที่มียอดขายรวม 21,000 ล้านบาท โดยจากแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งการขยายธุรกิจไปยังทำเลต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ ในทำเลหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น อาทิ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา, จ.เชียงใหม่ และพัทยา เป็นต้น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างมา

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้แล้วกว่า  35,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ของปี 2555 เป็นจำนวนกว่า  20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของเป้าหมายรายได้จากการขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ที่ประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 2554 รวมทั้งในปีนี้บริษัทยังทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จำนวนทั้งสิ้น 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง




ที่มา  :  วันที่ 03 เมษายน พ.ศ. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น