นายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดงานสถาปนิก′55 ว่า จากความสำเร็จของงานสถาปนิกที่จัดต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี จนเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพสถาปนิกในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคเอเชีย

ส่งผลให้ในปีนี้มีผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ จีน มาเลเซีย ลาว และเวียดนาม เป็นต้น สนใจตอบรับเข้าร่วมงานแล้วกว่า 80% ซึ่งบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผลักดันให้การจัดงานสถาปนิก′55 มีความยิ่งใหญ่และก้าวสู่ความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น

"จุดเด่นของงานสถาปนิกคือเป็นงานที่รวมไอเดียด้านการออกแบบ นวัตกรรมใหม่ๆ และงานวิชาการระดับนานาชาติที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ถือเป็นงานด้านสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสถาปนิกในเอเชีย สำหรับการจัดงานภายใต้คอนเซ็ปต์ "ก้อนน้ำ" ในปีนี้ ก็นับว่าเป็นประเด็นที่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นอกจากการนำเสนอข้อมูลความรู้รอบด้านอย่างลึกซื้งแล้ว ในงานปีนี้ยังจะมีการโชว์นวัตกรรมเพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งแบบบ้านสู้น้ำจากฝีมือการออกแบบของบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งจะแจกให้กับผู้มาร่วมงานที่สนใจกว่า 15 แบบ" นายทวีจิตร กล่าว

นายปริญญา เอี่ยมประดิษฐ์ภัณ ผู้จัดการ บริษัท อเรย์ คอนสทรัคท์ชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมนำนวัตกรรม "บ้านน้ำไม่ท่วม" มาโชว์ภายในงานสถาปนิก′55 ซึ่งคอนเซ็ปต์การออกแบบจะเน้นผสมผสานความทันสมัยสไตล์โมเดิร์นเข้ากับความเป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มเติมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทำให้สามารถอยู่อาศัยได้ในสภาวะน้ำท่วม

โดยเน้นการออกแบบโครงสร้างและงานระบบภายในด้วยการแยกระบบสายไฟ แอร์ และแสงสว่าง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามความจำเป็น

แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบบ้าน 2 ชั้น ที่มีการยกพื้นบ้านและลานจอดรถให้สูงขึ้น มีขอบเขตสำหรับปิดกั้นทางเข้าบ้านเพื่อป้องกันน้ำ รวมทั้งออกแบบระเบียงสำหรับพักผ่อนพร้อมห้องเก็บของในตัวที่บริเวณชั้นสองของบ้าน ส่วนหลังคาเป็นแบบโปร่งแสงและสามารถสไลด์เปิดปิดได้ เพื่อประโยชน์ในการใช้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ทดแทนการเปิดไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่งด้วย
 
สำหรับ แบบบ้าน 3 ชั้น สามารถรับมือน้ำท่วมได้ถึง 1.5 เมตร เนื่องจากมีการออกแบบเล่นระดับพื้นบ้านให้สูงขึ้น ส่วนชุดประตูหน้าต่างสามารถถอดเก็บได้ทั้งหมด ผนังห้องครัวสามารถถอดออกเพื่อปรับพื้นที่ให้เป็นลานจอดรถชั่วคราว รวมทั้งมีการออกแบบห้องอเนกประสงค์บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน สำหรับใช้ทำกิจกรรมและเป็นห้องครัวชั่วคราวอีกด้วย ซึ่งคาดว่าแนวคิดแบบบ้านน้ำไม่ท่วมนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค



ที่มา  :   วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น