นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่าน มาสมาคมได้ยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอมาตรการเยียวยาภาคธุกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยขอให้ออกเป็นนโยบายหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน กรุงเทพ มหานคร ท้องถิ่นอื่น ๆ และรัฐวิสาหกิจให้ความช่วยเหลือต่อภาคธุรกิจรับเหมาโดยไม่ต้องใช้ดุลพินิจ
ทั้งนี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ สมาชิกสมาคมที่รับงานกับภาครัฐไม่สามารถเข้าไซต์ก่อสร้างได้ ทำให้กระทบต่อความ คืบหน้าตามสัญญาก่อสร้าง สรุปสภาพความเดือดร้อน 5 ข้อ 1) ไซต์ก่อสร้างในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน สร้างความเสียหาย 2) ปัญหาขาดแคลนแรงงานสัญชาติไทย เพราะเป็นแรงงานคืนถิ่นกลับไปซ่อมแซมบ้านพักอาศัยในภูมิลำเนาที่ถูกน้ำท่วม ขณะที่แรงงานต่างด้าวได้อพยพกลับประเทศของตัวเองจำนวนมาก 3) ขาดแคลนวัตถุดิบและวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากโรงงานผลิตเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถผลิตได้ตามปริมาณความต้องการของตลาด
4) ปัญหาเส้นทางคมนาคมและเส้นทางที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเสียหาย ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้หลายเดือน อีกทั้งไม่สามารถลำเลียงแรงงาน วัตถุดิบ และวัสดุก่อสร้างเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างได้ และ 5) ผู้ประกอบการก่อสร้างมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายประจำ เช่น เงินเดือน ค่าเช่าเครื่องมือ เครื่องจักร ค่าซ่อมแซมงานก่อสร้างและเครื่องมือเครื่องจักร ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมธนาคาร ค่าดอกเบี้ย และค่าใช้จ่าย อื่น ๆ ในช่วงที่หยุดงานก่อสร้าง
"ตอนนี้น้ำลดแล้ว เราขอให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบ้าง ครั้งนี้เดือดร้อนกันมากจริง ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ไซต์ก่อสร้างถูกน้ำท่วมเท่านั้น ดังนั้นการขอความช่วยเหลือจึงไม่ใช่เรื่องขยายเวลาก่อสร้างตามสัญญาอย่างเดียว จะต้องมีเรื่องอื่น ๆ ด้วย"
สำหรับข้อเสนอขอความช่วยเหลือมี 13 ข้อ 1) สัญญาจ้างก่อสร้าง ให้รวมถึงสัญญาจ้างขุด ขนวัสดุ ซื้อขายงานก่อสร้าง สัญญาซื้อพร้อมติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานรวมงานประกอบอื่น ๆ
2) ขอให้ขยายอายุสัญญาที่ได้ลงนามก่อนเดือนธันวาคม 2554 ทุกสัญญาออกไปอีก 300 วัน 3) งดค่าปรับหลังขยายอายุสัญญาก่อสร้างให้แล้ว หรือคืนเงินค่าปรับตามความเป็นจริงแล้วแต่กรณี
4) ยกเลิกการหักค่า K ที่ตั้งเพดานไว้ 4% โดยขอให้เพิ่มค่างานได้ตามความเป็นจริง 5) ขอให้มีการแบ่งงวดงานและงวดเงินใหม่ เพื่อชวยเหลือให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องมากขึ้น
6) ขอให้ผู้เสนอราคาที่ไม่ต้องการลงนามสัญญาจ้าง หรือลงนามไปแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกเงินงวดแรก สามารถยกเลิกสัญญาได้ ไม่ถือเป็นผู้ทิ้งงาน และไม่ ริบหลักประกันซองเสนอราคาหรือหลักประกันสัญญา 7) ขอให้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มคู่สัญญาก่อสร้างได้ 8) กรณีมีค่าควบคุมงานหรือค่าที่ปรึกษาที่เพิ่มขึ้นจากการขยายอายุสัญญาจ้างออกไป ให้ผู้รับจ้างไม่เป็นผู้รับภาระ
9) สัญญาจ้างที่กำหนดระยะเวลาการประกันความชำรุดบกพร่องของงานจ้าง 2 ปี ขอให้ปรับใหม่เป็นคืนหลักประกันแก่ผู้รับจ้างเมื่อครบ 1 ปี ที่เหลืออีก 1 ปีให้เป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้างตามสัญญาจ้าง 10) ขอให้ส่วนราชการจ่ายเงินล่วงหน้า 15% ของมูลค่างานก่อสร้างคงเหลือโดยไม่ปรับลดวงเงินสัญญา
11) กรณีสัญญาที่ไม่มีค่า K ขอให้พิจารณาเพิ่มค่า K เข้าไปทุกโครงการ และให้ครอบคลุมมูลค่างานที่เหลือทั้งหมด 12) ขอให้รัฐบาลจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดภาระต้นทุนการเงิน และสุดท้าย 13) ให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่มเป็นการเร่งด่วน
ที่มา : วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ประชาชาติธุรกิจ
TAG : |