"สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ทิ้งทวนก่อนหมดวาระผู้ว่าฯ กทม. ดึงเงินสะสม 15,000 ล้านบาท โยกงบฯหาเสียง-โครงการไม่จำเป็นเฉลี่ย 10% อัดฉีดงบประมาณปี"55 เพิ่มจาก 55,000 ล้านบาทเป็น 70,000 ล้านบาท โปะนโยบายรัฐบาล-เยียวยาและฟื้นฟูหลังน้ำลด ทั้งโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม ปรับปรุงถนน 100 สาย เรียนฟรี จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ


นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลกระทบจากเกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ทำให้ กทม.ต้องมาทบทวนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ใหม่ โดยจะตั้งงบประมาณเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินเดิมตั้งไว้ 55,000 ล้านบาท เนื่องจากจะต้องนำเงินบางส่วนมาดำเนินการเรื่องเยียวยา ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมถึงโครงการ ต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล เช่น จ่ายเบี้ยยังชีพ โครงการเรียนฟรี เป็นต้น

กทม.มีแผนจะนำงบประมาณมาจาก 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) งบประมาณโครงการที่สามารถปรับลด ปรับเปลี่ยน ชะลอ หรือยกเลิกดำเนินการได้ ในเบื้องต้นจะปรับลดงบประมาณจากสำนัก ต่าง ๆ อย่างน้อย 5-10% และชะลอโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นนโยบายของผู้ว่าฯออกไปรวม 6 โครงการ มูลค่าโครงการหลายหมื่นล้านบาท เช่น สร้าง Sky Walk ติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวีของตำรวจตามแยกไฟแดง บัตรอีทิกเก็ต ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ ต่าง ๆ การเดินเรือในคลองแสนแสบ และรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล

2) ตั้งงบประมาณกลางปี 2555 เพิ่มเติม ภายใต้กรอบวงเงินรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินสะสมที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 18,000 ล้านบาท มาใช้ดำเนินการในโครงการต่าง ๆ เช่น การฟื้นฟูและเยียวยาหลังน้ำท่วม โครงการตามนโยบายรัฐบาล เป็นต้น

นายธีระชนกล่าวต่อว่า งบประมาณกลางปีที่ตั้งเพิ่มเติม หลัก ๆ จะจัดสรรให้กับสำนักที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักสิ่งแวดล้อมวงเงินกว่า 2,800 ล้านบาท สำนักการระบายน้ำวงเงินกว่า 2,700 ล้านบาท สำนักการศึกษาวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท สำนักการโยธาวงเงินกว่า 1,100 ล้านบาท โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุวงเงินกว่า 1,800 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบุคลากรของ กทม.วงเงินกว่า 1,300 ล้านบาท โครงการปรับปรุงถนนและตรอก ซอยหลังน้ำท่วมวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท การขุดลอกคูคลองวงเงินกว่า 300 ล้านบาท เป็นต้น

"แผนงบประมาณผ่านการพิจารณาที่ประชุมผู้บริหาร กทม.ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ทางสำนักงบประมาณ กทม.อยู่ระหว่างจัดทำราย ละเอียดโครงการว่ามีอะไรบ้าง ต่อไปจะเสนอให้สภากทม.พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งทำให้ในปี 2555 กทม.มีงบประมาณไว้ใช้จ่ายร่วม ๆ กว่า 60,000-70,000 ล้านบาท ซึ่งรวมกับงบฯเดิม 55,000 ล้านบาทด้วย"

นายธีระชนกล่าวต่อว่า สำหรับการจัดเก็บรายได้ เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้การจัดเก็บรายได้ของ กทม.หายไปกว่า 800 ล้านบาท รายการหลัก ๆ ที่หายไปเป็นการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ทำให้ปีนี้แนวโน้มการจัดเก็บภาษีของ กทม.คงทำได้ตามเป้าที่ประมาณการไว้ 55,000 ล้านบาท แต่อาจจะไม่ถึงเป้าที่คาดไว้ว่าจะโตขึ้น สามารถจัดเก็บได้ถึง 60,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นประมาณการที่ตั้งไว้ก่อนเกิดน้ำท่วม เทียบกับปี 2554 ที่จัดเก็บรายได้เกินจากเป้า 46,000 ล้านบาท โดยเก็บได้ถึง 57,336 ล้านบาท

แหล่งข่าวจาก กทม.เปิดเผยว่า การที่ผู้บริหาร กทม.ตั้งเป้าจะดึงเงินสะสมมาใช้ในปีนี้ถึง 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ นับว่าเป็นวงเงินสูงสุดกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยในปี 2554 ที่ผ่านมาสถิติอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท อาจจะเป็นเพราะว่าปีนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เหลือเวลาบริหารงานประมาณ 1 ปี จะครบวาระวันที่ 15 มกราคม 2556 นี้ ทำให้อยากจะใช้เงินสำหรับการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเป้า

ด้านนายจุมพล สำเภาพล รองปลัด กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.เริ่มทยอยเปิดประมูลโครงการปรับปรุงถนน ประมาณ 100 สายทางที่อยู่ในแผนและถูกน้ำท่วม โดยใช้งบฯกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งการจัดหาผู้รับเหมาใช้วิธีดำเนินการ 2 รูปแบบคือ ประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออีออกชั่น และจัดจ้างโดยวิธีพิเศษตามความจำเป็นเร่งด่วนของแต่ละโครงการ

โดยจะใช้เวลาดำเนินการ 90 วัน หรือ 3 เดือนนับจากที่ได้ตัวผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนที่เหลือจะเป็นสายทางที่เสียหายมาก ต้องรื้อของเดิมใหม่และยกระดับความสูงเพิ่ม จะใช้เวลาก่อสร้างนาน อยู่ระหว่างสำรวจว่ามีถนนสายไหนบ้าง อีกทั้งต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมด้วย เบื้องต้นมีถนนพุทธมณฑลสาย 3 ที่กำลังก่อสร้าง ถนนคุ้มเกล้าที่มีแผนจะเพิ่มระดับความสูงอีก 30-40 เซนติเมตร และของบฯก่อสร้างเพิ่ม




ที่มา  :  วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น