3 สมาคมอสังหาฯ พ่วงสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดทำบัญชี "ราคากลางซ่อมแซมบ้าน" 9 รายการ ครอบคลุมวัสดุหลักที่ต้องซ่อมแซมหลังน้ำลด ส่งถึงมือ 2 หน่วยงานรัฐ "สคบ.- กรมการค้าภายใน" สำหรับเป็นคู่มือช่วยผู้ประสบภัย ด้านผู้รับเหมารายย่อยชี้หลังน้ำท่วมงานซ่อมแซมบ้านเพียบ แต่แรงงานก่อสร้างขาด แคลนบวกกับค่าแรงขยับ ดันค่าจ้างหลังน้ำลดขยับขึ้น 20-30% ขณะที่ "สคบ." เตือนไม่ควรว่าจ้างผู้รับเหมาที่ไม่ได้จดทะเบียนบริษัท


นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจาก 3 สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้เข้าพบเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อสอบถามและแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันถึง การให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ ประสบภัยและต้องการซ่อมแซมบ้านไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องราคา

ล่าสุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ 3 สมาคมอสังหาฯได้จัดทำ "ราคาไกด์ไลน์ค่าซ่อมแซมบ้าน" หรือราคากลางที่เป็นบัญชีราคาเสร็จเรียบร้อย โดยได้มอบบัญชีราคาดังกล่าวให้กับ สคบ.และกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์นำไปเผยแพร่ต่อไป เพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนประกอบการพิจารณาว่าจ้างผู้รับเหมาซ่อมแซมบ้าน จะไม่ต้องถูก เอารัดเอาเปรียบ เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการว่าจ้างผู้รับเหมาซ่อมบ้านเป็นจำนวนมาก จึงอาจมีการโก่งราคาเกิดขึ้น

เปิดโพยบัญชี 9 หมวดฟื้นฟูบ้าน

การจัดทำราคาไกด์ไลน์ มีการอ้างอิงจากราคาผู้ประกอบการสมาชิกสมาคม ในการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านในโครงการ แต่ได้บวกราคาเผื่อขึ้นอีก 20-50% (แล้วแต่รายการ) เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการจะมีปริมาณงานหลายหลัง ทำให้ได้ราคาถูก

"ไม่อยากให้เรียกว่าเป็นราคากลาง เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ราคาสูงหรือต่ำลงได้อีก จุดประสงค์เราต้องการให้เป็นราคาไกด์ไลน์หรือราคาเทียบเคียงเป็นหลัก" นายอิสระกล่าว

โดยราคาไกด์ไลน์ที่จัดทำขึ้นแบ่งรายการซ่อมแซมที่คาดว่ามีความจำเป็นหลังน้ำลดออกเป็น 9 หมวด ได้แก่ 1) งานกระเบื้องปูพื้น-บุผนัง 2) งาน สุขภัณฑ์ 3) งานไฟฟ้า 4) งานประตู 5) งานสี 6) งานหินขัด หินอ่อน 7) งานเคาน์เตอร์ครัว 8) งานบันได และ 9) งานฝ้าเพดาน (ดูตารางประกอบ)

ทั้งนี้ 3 สมาคมอสังหาฯ มีคำแนะนำเพิ่มเติมดังนี้ 1) เจ้าของบ้านในละแวกใกล้เคียงรวมกัน ตัวว่าจ้างผู้รับเหมาในคราวเดียว เพื่อให้ได้ค่าจ้างซ่อมแซมที่ถูกลง 2) วัสดุบางอย่าง อาทิ กระเบื้อง ประตู ลูกบิดและอุปกรณ์ สี ฯลฯ สามารถจัดซื้อได้เอง เพราะมีคุณภาพและราคาหลากหลาย 3) วัสดุบางอย่างควรให้ผู้รับเหมาจัดซื้อให้ เนื่องจากขนส่งลำบากหรือต้องอาศัยความชำนาญ อาทิ ฝ้าเพดาน อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ

4) การทาสีใหม่ควรทิ้งไว้ให้ความชื้นระเหยออกให้หมด โดยใช้แผ่นพลาสติกใสปิดด้วยเทปกาวที่ผนัง 1-2 วัน และสังเกตละอองน้ำภายในแผ่นพลาสติก 5) หากวอลเปเปอร์ถูกน้ำควรลอกออกให้หมดเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราคา และ 6) บัวเชิงผนังที่ถูกน้ำ ควรรื้อออกและนำไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนนำมาติดตั้งใหม่

รับเหมาแนะผู้ประสบภัยต้องทำใจ

นายอิสระกล่าวอีกว่า ทาง สคบ.ได้สอบถามถึงเรื่องความเสียหายของพื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภคจากน้ำท่วมว่าสมาคมอสังหาฯจะมีแนวทางช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนใหญ่มีความพร้อมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายฟื้นฟูพื้นที่ส่วนกลางและสาธารณูปโภคในโครงการเองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สำหรับการซ่อมแซมบ้านจัดสรรในโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในระยะเวลาประกันบ้าน คงจะต้องขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายว่ายินดีจะซ่อมแซมให้ลูกค้าหรือไม่

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบธุรกิจผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย กล่าวว่า นับตั้งแต่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้น มีเจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมติดต่อเข้ามาให้ซ่อมบ้านเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 ราย ส่วนใหญ่เป็นงานซ่อมแซมพื้นไม้ ปูกระเบื้อง ทาสี แต่ปัจจุบันทำได้แค่ประเมินราคาไว้ก่อน

และต้องชะลอการรับงานบางส่วนไว้เนื่องจาก 2 เหตุผลคือ 1) ปัญหาแรงงานขาดแคลน โดยเฉพาะแรงงานที่เป็นคนพื้นเพภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้กลับบ้านไปเก็บเกี่ยวนาข้าว และจะเริ่มทยอยกลับมาในเดือนมกราคม 2) จำเป็นต้องให้รอให้บ้านระเหยความ ชื้นออกไปอีก 1-2 เดือน การซ่อมแซมหรือทาสีใหม่จึงจะได้ผลดี

สำหรับราคาไกด์ไลน์ค่าซ่อมบ้านที่ 3 สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จัดทำ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับใกล้เคียงราคาตลาด แต่ก็มีบางรายการไม่สามารถทำได้ อาทิ ค่าขัดลอกหน้าและเคลือบผิวหินขัด-หินอ่อน ซึ่งรับอยู่ที่ตารางเมตรละ 2,000-2,500 บาท ขณะที่ราคาไกด์ไลน์อยู่ที่ตารางเมตรละ 300-400 บาท เพราะมีค่าเช่าอุปกรณ์ซึ่งมีราคาแพง, ค่าแรงทาสี รับอยู่ที่ตารางเมตรละ 80-100 บาท ขณะที่ราคาไกด์ไลน์อยู่ที่ตารางเมตรละ 30-70 บาท ฯลฯ

"เปรียบเทียบราคาซ่อมบ้านโดยรวม เจ้าของบ้านต้องทำใจว่าจะต้องจ่ายแพงขึ้น 20-30% เพราะช่างหายาก วัสดุบางตัวราคาขึ้น ค่าแรงคนงานขึ้น อย่างปีที่แล้วเคยจ้างคนงานวันละ 280 บาท ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 350 บาท ที่สำคัญการซ่อมบ้านเก่าจะต้องมีการรื้อด้วย ทำให้ยากกว่าการทำบ้านใหม่ เพราะอาจทำให้วัสดุตัวอื่นเสียหาย ดังนั้นก็จะบวกค่าดำเนินการตรงนี้เข้าไปด้วย"

สคบ.เตือนจ้างซ่อมต้องทำสัญญา

ด้าน ร.ต.ไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้บริโภคระมัดระวังการว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยซ่อมแซมบ้าน โดยเฉพาะที่ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เนื่องจากหากมีการทิ้งงาน หรือทำงานไม่ได้คุณภาพ ปัญหาเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเอาผิดได้ยาก หรือไม่สามารถติดต่อได้

ข้อแนะนำคือ กรณีที่ว่าจ้างผู้รับเหมาควรจะขอนามบัตร เบอร์ติดต่อ หรือใบตกลงไว้ หากมีการทำผิดข้อตกลงราคาสามารถใช้เป็นหลักฐานร้องเรียนกับ สคบ. ส่วนในการควบคุมราคาว่าจ้างซ่อมแซมบ้านจะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมการค้าภายใน

กลุ่มรับสร้างบ้านร่วมแจมข้อมูล

นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า สมาคมให้ความร่วมมือในการจัดทำราคากลางซ่อมแซมบ้านส่งให้กับ สคบ.เช่นกัน โดยแบ่งเป็น 2 หมวดหลักคือ หมวดรื้อถอนและหมวดติดตั้งใหม่

โดยหมวดรื้อถอนจะเป็นรายการเกี่ยวกับค่าแรงในการรื้อถอนวัสดุประเภท ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด อาทิ บานประตู วงกบ พื้น ไฟฟ้า สี ฯลฯ ส่วนหมวดติดตั้งใหม่จะเป็นหมวดที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาวัสดุก่อสร้างประเภทต่าง ๆ ที่คาดว่าจะต้องใช้มากที่สุด อาทิ พื้น บานประตู กระเบื้อง ปลั๊กไฟ รวมถึงค่าแรงในการติดตั้งด้วย

"ราคากลางดังกล่าวผู้บริโภคสามารถนำมาใช้เปรียบเทียบได้ แต่อย่ายึดถือทั้งหมด เพราะปริมาณความเสียหาย ในแต่ละบ้านไม่เท่ากัน ความยากง่าย ในการจัดหาวัสดุแต่ละประเภทก็แตกต่างกัน ทำให้การตีราคาของผู้รับเหมาแต่ละรายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้องานที่ทำด้วย ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของสมาคม ที่ www.hba-th.org" นายวิบูลกล่าว



ที่มา  :  วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น