PYLON โชว์ผลงานโค้ง 3 และงวดสะสม 9 เดือนยอดเยี่ยม หลังรับอานิสงส์งานไหลเข้าตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย Q3/54 ทำกำไรสุทธิ 20.39 ลบ. เพิ่มขึ้น 376.64% จากปีก่อนที่ทำได้ 4.28 หนุนงวด 9 เดือนกำไรพุ่งทะลุ 64.05 ลบ. หรือ 720.10% จากปีก่อนที่ทำได้ 7.81 ลบ. "บดินทร์ แสงอารยะกุล" มั่นใจอุทกภัยไม่มีผลต่อธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ เชื่อทำรายได้เข้าเป้า 1 พันลบ.หายห่วง หลังตุน Backlog แล้ว 900 ลบ.รับรู้ต่อเนื่องถึงปี 56 นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 3/2554 (กรกฎาคม — กันยายน 2554)ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 20.40 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.10 บาท เพิ่มขึ้น 16.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 376.64 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 4.28 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.02 บาท ส่งผลให้ผลประกอบการในงวดสะสม 9 เดือนบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 64.05 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.32 บาท เพิ่มขึ้น 56.24 ล้านบาท หรือร้อยละ 720.10 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7.81 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.04 บาท
สำหรับผลประกอบการในงวด 3 เดือนบริษัทฯ มีรายได้จากการรับจ้างรวม 270.14 ล้านบาท มีต้นทุนจากการรับจ้าง 234.11 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย และ ค่าใช้จ่ายในการบริหาร รวม 10.69 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 20.40 ล้านบาท สำหรับงวดเก้าเดือนมีรายได้จากการรับจ้างรวม 736.82 ล้านบาท มีต้นทุนจากการรับจ้าง 604.15 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย และ ค่าใช้จ่ายในการบริหาร รวม 42.23 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 64.05 ล้านบาท
ในขณะที่งบเฉพาะกิจการบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนเท่ากับ 25.48 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 20.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 442.94 ส่วนกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนของบริษัทเท่ากับ 67.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 53.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 387.52 โดยมีรายได้จากการรับจ้างสำหรับงวดสามเดือน และงวดเก้าเดือน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 88.66 ล้านบาท และ 277.29 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการขยายตัวของงานในตลาด
“ผลประกอบการไตรมาส 3/2554 ที่ออกมาดีกว่าปีที่ผ่านมามาก เนื่องจากปริมาณงานไหลเข้าตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรับงานได้เพิ่มขึ้น และยังรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างของบริษัทย่อยด้วย ส่วนเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจบ้างด้านการขนส่งวัสดุที่ไม่สามารถจัดส่งได้เต็มที่ แต่บริษัทฯ ยังสามารถรับความเสี่ยงดังกล่าวได้ โดยคาดว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้ใกล้เคียง 1,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงกลางปี 2556 แบ่งเป็นงานฐานราก มูลค่า 500 ล้านบาท งานแนวราบ มูลค่า400 ล้านบาท" ” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตามมหาอุทกภัยครั้งนี้ น่าจะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว จากแนวโน้มที่ความต้องการของคอนโดมิเนียมจะเติบโตขึ้น และรัฐบาลจะต้องมีการลงทุนในระบบป้องกันน้ำท่วมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นงานประเภทเดียวกับที่บริษัทกำลังดำเนินการอยู่แล้ว
ที่มา : ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2554
TAG : |