ส.อาคารชุดไทย เสนอแพ็คเกจฟื้นอสังหาฯ ผุด 4 มาตรการ "ลดภาษี-ค่าโอน-จดจำนอง-มูลค่าเพิ่มวัสดุฯ" ชงเรื่องผ่านสภาหอการค้าไทย นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เกิดการชะงักงันรุนแรงตลอด 1-2 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภครายใหม่ไม่สนใจซื้อ ผู้บริโภคที่ซื้อไปแล้วก็ไม่ผ่อนต่อ รวมถึงผู้บริโภคหลายรายไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ ล่าสุดสมาคมอาคารชุดไทยจึงได้เสนอมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ 4 ข้อ ผ่านสภาหอการค้าไทย ได้แก่ 1.ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% 2.ลดค่าจดจำนองจาก 1%เหลือ 0.01% 3.ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.11% และ 4.ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มวัสดุก่อสร้างตลอดทั้งปี 2555 เพื่อการฟื้นฟูบ้านเรือนหลังน้ำท่วม
"ทุกวันนี้ เวลาซื้อบ้านหลังหนึ่ง ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมถึง 8 อย่าง คิดเป็น 6-7% ของราคาบ้าน เท่ากับว่า หากเราซื้อบ้านราคา 2 ล้าน ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกแสนกว่าบาท ซึ่งเป็นภาระที่หนักมากสำหรับผู้ซื้อ จึงเสนอมาตรการลดหย่อนผ่านสภาหอการค้าไทยไปยังรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่สนใจจะซื้อบ้านและซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด" นายธำรง กล่าว
ส่วนการขอผ่อนผันการบังคับใช้ เกณฑ์การให้สินเชื่อวงเงินกู้ต่อหลักประกัน (แอลทีวี) ต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุด ธปท.ได้อนุมัติเลื่อนการบังคับใช้แอลทีวี 5% ส่วนของบ้านแนวราบจากเดิมจะเริ่ม 1 ม.ค. 2555 เป็น 2556 แล้ว แต่ส่วนอาคารแนวสูง หรือคอนโดมิเนียม 10% ไม่มีการผ่อนผัน หลังจากเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ยังคงปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน
"เป็นเรื่องที่เราเคยคุยกับทาง ธปท.ตั้งแต่ก่อนบังคับใช้เมื่อต้นปีแล้ว ก่อนหน้านี้มีความกังวลกันว่าคอนโดมิเนียมจะล้นตลาดจึงมีมาตรการนี้ออกมา ล่าสุดเราเข้าไปขอผ่อนผันพร้อมกับสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร แต่ก็ไม่ได้รับพิจารณา ตอนนี้เกิดน้ำท่วม สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว การจะให้ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์ถึง 10% เป็นเรื่องลำบาก เร็วๆ นี้จะเข้าไปเจรจากับ ธปท.อีกครั้งหนึ่ง" นายธำรง กล่าวและว่า หลังจากตลาดกลับมา ตลาดคอนโดมิเนียมจะได้เปรียบกว่าตลาดบ้านจัดสรร เพราะคอนโดมิเนียมมีพื้นที่แคบ สามารถป้องกันภัยน้ำท่วมได้ง่ายกว่า ดังนั้นทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยก็อยู่ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป จึงได้รับความเสียหายน้อยกว่า อีกทั้งคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ยังตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นใน ซึ่งมีโอกาสน้ำท่วมน้อยกว่า
ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นสิ่งที่มีอยู่ตลอดเวลา หลังจากน้ำลดผู้บริโภค ยังมีความต้องการ แต่ไม่มีอารมณ์ซื้อ อาจทำให้การซื้อขายชะงักไปอีก 6 เดือน ถึง 1 ปี ถึงแม้ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมจะมีมาก แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้ราคาสูงขึ้น หากราคาจะสูงขึ้นน่าจะเป็นเพราะราคาที่ดิน เพราะปัจจุบันพื้นที่ที่สามารถสร้างคอนโดมิเนียมมีอยู่จำกัด อีกทั้งผังเมืองรวมกทม. ฉบับใหม่ที่กำลังจะออกมาก็มีข้อกำหนดมากขึ้น เช่น ห้ามสร้างในตรอก ซอยที่มีถนนต่ำกว่า 12 เมตร ทำให้เจ้าของที่ดินในบริเวณที่สามารถสร้างคอนโดมิเนียมได้โก่งราคาสูงขึ้น เมื่อที่ดินแพงขึ้นจึงส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมสูงขึ้น
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การที่ ธปท.ประกาศเลื่อนแอลทีวีให้กับบ้านแนวราบออกไป 1 ปี ถือเป็นผลดีต่อประชาชน ช่วยให้สถานการณ์การซื้อขายผ่อนคลาย การขอสินเชื่อทำได้ไม่ลำบาก ผู้ซื้อบ้านเกิดความคล่องตัวทางการเงิน เป็นการช่วยที่เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลังน้ำลด ประชาชนจะย้ายจากการอยู่อาศัยในบ้านแนวราบไปเป็นคอนโดมิเนียม เพราะคนส่วนใหญ่จะมีความผูกพันกับถิ่นฐานและบ้านที่ตัวเองอยู่ จึงไม่น่าจะมีการย้ายทำเลหรือการย้ายบ้านออกจากพื้นที่เดิม
ที่มา : วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554 กรุงเทพธุรกิจ
TAG : |