PYLON ส่งสัญญาณโชว์ผลงานโค้ง 3 ปีนี้สดใส หลังปริมาณวันหยุดกลับสู่ภาวะปกติ ไม่หวั่นสถานการณ์น้ำท่วม มั่นใจรับมืออยู่ ระบุปัจจุบันมี Backlog กว่า 900 ล้านบาทรอรับรู้ถึงกลางปี 2556 แถมรอลุ้นผลประมูลงานใหม่อีก 1 พันล้านบาท “บดินทร์ แสงอารยะกุล” เผยนโยบายรัฐลุยเมกะโปรเจ็กรถไฟฟ้า 10 สาย เอื้ออุตสาหกรรมรับเหมา คึกคัก โดยเฉพาะปีหน้าเร่งสร้างพร้อมกัน 3 สาย แดง เขียว น้ำเงิน ยิ่งเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON
ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการใน
ไตรมาส 3/2554 (กรกฎาคม — กันยายน 2554)ว่ามีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2554 เนื่องจากปริมาณวันหยุดและสภาพภูมิอากาศที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจลดลง ส่งผลให้การทำงานฐานรากประเภทเสาเข็มเจาะทำได้รวดเร็วขึ้น และบริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
“ที่ผ่านมาปัญหาการทำงานในไตรมาส 2 ก็คือ วันหยุดที่ต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันทำการ ประกอบกับมีปัญหาเรื่องฝนตกชุกทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ในไตรมาส 3 นี้ วันหยุดน้อยลง จึงทำให้วันทำงานเพิ่มขึ้น การรับรู้รายได้จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2554 จึงคาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2ที่ผ่านมา และคาดว่าจะดีขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับผลประกอบการงวดเดียวกันในปี 2553 เนื่องจากปริมาณงานไหลเข้าตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถรับงานได้เพิ่มขึ้น และยังรับรู้ รายได้จากงานก่อสร้างของบริษัทย่อยด้วย” นายบดินทร์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจบ้างด้านการขนส่งวัสดุที่ล่าช้า แต่บริษัทฯ ยังสามารถรับความเสี่ยงดังกล่าวได้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงกลางปี 2556 แบ่งเป็นงานฐานราก มูลค่า 500 ล้านบาท งานแนวราบ มูลค่า400 ล้านบาท พร้อมยังคงเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 1 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับงานใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีงานที่ยื่นประมูลไปแล้วและรอผลอยู่มูลค่า 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานฐานราก มูลค่า 700 ล้านบาท และงานแนวราบ มูลค่า300 ล้านบาท โดยจากศักยภาพของบริษัทฯ คาดวาจะได้งานดังกล่าวสัดส่วน 25% ของมูลค่างานรวม ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทฯ ยังมาจากงานฐานรากสัดส่วน 70% ขณะที่อีก 30% มาจากงานแนวราบของบริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจรับเหมาฐานรากว่า แผนก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กของรถไฟฟ้าทั้ง10 สายของรัฐบาลจะกระตุ้นให้อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างคึกคักต่อเนื่อง และยังเอื้อโอกาสให้บริษัทฯ รับงานฐานรากประเภทเสาเข็มเจาะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในปี 2555ที่รัฐบาลมีนโยบายสร้างรถไฟฟ้าพร้อมกัน 3 สาย ได้แก่ สายสีแดง สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน ถือว่าเป็นผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมและบริษัทฯเอง
"ธุรกิจก่อสร้างอาคารยังเปิดกว้างอยู่มาก และมีโอกาสเติบโตสูง แต่ บริษัทฯ เน้นเรื่องดูแลความเสี่ยงเป็นหลัก ดังนั้นการรับงานแต่ละครั้งจึงต้องเน้นคุณภาพให้มีความเสี่ยงน้อย และกำไรอยู่ในอัตราที่รับได้ มากกว่าเน้นรับงานปริมาณมากๆ โดยธุรกิจงานฐานรากเห็นว่าภาพรวมอุตสาหกรรมคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะการเร่งสร้างรถไฟฟ้าหลายสาย และเชื่อว่าผลประกอบการที่ออกมาเติบโตอย่างโดดเด่นนั้น จะทำให้นักลงทุนมั่นใจในบริษัทฯ และสะท้อนออกมาที่ราคาหุ้นในที่สุด ” นายบดินทร์ กล่าว ข้อมูลบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากงาน แบ่งออกเป็น 3 สายงานหลัก ดังนี้ คือ
1.งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มที่นิยมใช้กับการก่อสร้างฐานรากของโครงสร้างขนาดใหญ่ และโครงสร้างอาคารในบริเวณที่มีพื้นที่ จำกัด นอกจากนี้เสาเข็มเจาะยังลดมลภาวะเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนเมื่อเทียบกับการใช้เสาเข็มตอก นอกจากนั้น การก่อสร้างเสาเข็มเจาะนั้นสามารถ ปรับเปลี่ยนขนาดได้ ตามการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มโดยวิศวกร และสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่ 2.งานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement)
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างดินเดิม ทำให้ดินมีกำลังรับน้ำหนักมากขึ้นและ ป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน โดยบริษัทมีการให้บริการงานประเภทนี้โดยวิธีการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง (Jet Grouting) ที่ความดันประมาณ 200 ถึง 400 บาร์ และ
3.งานก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Wall) เป็นการก่อสร้างกำแพง เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักและป้องกันการเคลื่อน ตัวของดินทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเป็นโครงสร้างของชั้นจอดรถใต้ดิน กำแพงอาคารผู้โดยสารสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นต้น
ที่มา : ThaiPR.net -- พุธที่ 12 ตุลาคม 2554
TAG : |