หอการค้าประเมินน้ำท่วมฉุดจีดีพี1% คาดเสียหาย1.3แสนล้านลดคาดการณ์จีดีพี ของไทยปี 54 เหลือโต 3.6% หลังไทยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและยุโรป นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2554 จะขยายตัวต่ำกว่าที่เคยมองไว้ที่ 4.4% เมื่อเดือนพ.ค.หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงเศรษฐกิจยุโรปที่ยังมีปัญหา อย่างไรก็ตามคาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2554 จะขยายตัว 22.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ 16.1% ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะขยายตัว 25.7% เพิ่มจากประมาณการครั้งก่อนที่ 19.6%
"เรามองว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตแค่ 3.6% กรอบ 3.5-4.0% เพราะสถานการณ์น้ำท่วม มีผลเศรษฐกิจปีนี้มากที่สุด และผลพวงความเชื่อมั่นจากน้ำท่วมและเศรษฐกิจยุโรปที่มีปัญหา"นายธนวรรธน์ กล่าว
น้ำท่วมสูญ1.3แสนล้าน นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จากการประเมินปัญหาน้ำท่วม จะมีมูลค่าความเสียหายรวมอยู่ที่ 130,120 ล้านบาท หรือทำให้จีดีพีลดลง 1-1.3% แบ่งเป็นผลกระทบต่อภาคการเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่นาข้าว ซึ่งอ้างอิงตัวเลขกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีความเสียหาย 4-5 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 5 หมื่นล้านบาท
ความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรม หากน้ำท่วมภายใน 1 เดือน จะทำให้มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท แต่หากมีความเสียหายนานกว่า 1 เดือน จะทำให้มูลค่าความเสียหายสูงถึง 2.5-3 หมื่นล้านบาท หากรวมความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยว ซี่งหากเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จะมีมูลค่าความเสียหาย 5-7 หมื่นล้านบาท "เราคาดว่าอาจมีผลแรงกว่านี้ หากน้ำท่วมขังมากกว่านี้หรือซ้ำมาที่กรุงเทพฯและยังไม่นับรวมหากมีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปลายปี ซึ่งถ้าหากน้ำท่วมกรุงเทพฯความเสียหายอาจเพิ่มขึ้นไปอีก 2 หมื่นล้าน เพราะอาจจะกระทบการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม" นายธนวรรธน์ กล่าว
กำลังซื้อภาคเกษตรลด นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ เกษตรกรไม่สามารถขายข้าวเข้าสู่ระบบการจำนำข้าวได้ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็จะส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาส 4 ไม่คึกคักและประชาชนกังวลกับรายได้ในอนาคต ซึ่งมาจากผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่การท่องเที่ยวก็อาจจะชะลอลงบ้าง
"เดิมคาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 จะขยายตัว 4.5-5% ได้ปรับลดเหลือโต 4% เพราะเกิดน้ำท่วม มาตรการรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน และยังไม่มีเม็ดเงินจากรัฐบาลเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจ"นายธนวรรธน์ กล่าว ขณะที่ไตรมาส 4/2554 ได้มีการปรับลดคาดการณ์ลงเช่นกัน โดยคาดว่าจะขยายตัวเหลือ 4.5% จากเดิมเคยคาดไว้ 5-6% แต่คาดว่าในช่วงดังกล่าวจะมีเงินจากภาครัฐผ่านโครงการรับจำนำข้าวประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท และจะทยอยเข้ามาอีกในเดือนม.ค.-ก.พ.2555 อีกประมาณ 2-3 แสนล้านบาท
รถยนต์คันแรกกระตุ้นไม่มาก
ส่วนมาตรการรถยนต์คันแรกนั้น มองว่าคงไม่ใช่แรงกระตุ้นหลัก เนื่องจากรัฐบาลจะต้องสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าน่าจะมีเงินหมุนเวียนจากโครงการดังกล่าวราว 1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4 ดังนั้น ไตรมาส 4 จึงไม่มีอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจหลัก ทำให้ทิศทางของเศรษฐกิจอาจจะย่อตัวลง ทั้งนี้เศรษฐกิจจริงไตรมาส 2/2554 จีดีพีของไทยขยายตัว 2.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่เมื่อเทียบรายไตรมาสจีดีพีลดลง 0.2% หลังภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือนมี.ค.
มองปี 55 เงินภาครัฐหนุนศก. สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2555 คาดว่าจะขยายตัว 4.3% บนพื้นฐานที่ว่าเศรษฐกิจโลกยังขยายตัวได้ราว 3-4% โดยเศรษฐกิจประเทศหลักยังคงขยายตัว ทั้งสหรัฐฯจะขยายตัว 1.1-1.8%, ยุโรป 1.0-1.5% และญี่ปุ่น 2.0-2.3% ขณะที่มองว่าเศรษฐกิจจีน จะขยายตัวประมาณ 8.5-9.0% ในปีหน้า
ที่มา : วันที่ 7 ตุลาคม 2554 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
TAG : |