รับสร้างบ้านมึน หลังน้ำลด "แบบบ้านใต้ถุนสูง" ยอดจองแผ่ว พี่ใหญ่ใจดีค่าย "ซีคอน" ปิดยอดจองได้ 15 หลัง แต่ยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ "รอแยลเฮ้าส์-ปทุมดีไซน์ฯ" ได้ออร์เดอร์ติดปลายนวมเพียงรายละ 2 หลัง ส่วน "มีนบุรี รับสร้างบ้าน" ยังไม่มียอดจอง ชี้ลูกค้าใช้วิธีถมที่ดินสูงหนีน้ำท่วมทดแทน

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัทซีคอน ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังบริษัทในเครือคือคอมแพค โฮม เปิดตัวแบบบ้านรับมือน้ำท่วมแบบใต้ถุนสูงรุ่น "สายน้ำ" จำนวน 8 แบบ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นแบบสไตล์ไทยประยุกต์ยกใต้ถุนสูง ระดับราคาเฉลี่ยหลังละ 2-3 ล้านบาท และถือเป็นผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายแรก ๆ ที่เปิดตัวแบบบ้านใต้ถุนสูงรับมือน้ำท่วม ปรากฏว่าได้รับความสนใจ มีลูกค้าสอบถามรายละเอียดจำนวนมาก ในแง่การปิดยอดจองบ้านยังไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จนถึงปัจจุบันมียอดจองเข้ามา 15 หลัง รวมมูลค่าประมาณ 45 ล้านบาท มีทั้งบ้านที่จะปลูกสร้างในทำเลน้ำท่วมและน้ำไม่ท่วม ล่าสุดบริษัท ซีคอน จำกัด ที่ปลูกสร้างบ้านระดับราคาตั้งแต่ 4-5 ล้านบาทขึ้นไป จึงได้เปิดตัวแบบบ้านรับมือน้ำท่วม "Bangkok River" เพิ่มเติมอีกจำนวน 6 แบบ มีพื้นที่ใช้สอย 253-597 ตร.ม. ราคา 7.7-12.7 ล้านบาท

ปัจจัยที่แบบบ้านใต้ถุนสูงมียอดจองเข้ามาไม่มากนัก น่าจะมาจากพื้นที่ใช้สอยจะลดลงจากแบบบ้านปกติประมาณ 10-12% เช่น บ้านขนาด 200 ตร.ม. จะมีพื้นที่ลดลงเหลือประมาณ 180 ตร.ม. เพราะพื้นที่ห้องรับแขก ห้องน้ำ และครัวปิดภายในบ้านชั้นล่างจะหายไป ส่วนยอดขายของกลุ่มบริษัทซีคอน ที่ประกอบด้วย 3 บริษัทคือ ซีคอน, คอมแพค โฮม และบัดเจท โฮม ช่วง 4 เดือนแรกทำได้เกินเป้า ปิดยอดขายได้ 385 ล้านบาท จากเป้า 370 ล้านบาท

นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังเปิดตัวแบบบ้านใต้ถุนสูงสู้น้ำท่วม 2 แบบ ราคาหลังละ 2 ล้านบาทบวกลบ ที่ผ่านมามีผลตอบรับไม่ดีนัก ปิดยอดจองได้ 2 หลัง และคงไม่พัฒนาแบบบ้านใต้ถุนสูงรุ่นใหม่เพิ่มเติม สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าลูกค้ายังคงเลือกแบบบ้านปกติ แต่ใช้วิธีถมดินให้สูงขึ้นหรือเทพื้นชั้นล่างให้สูงขึ้นตั้งแต่ 80 ซม.ขึ้นไป

ทั้งนี้ คาดว่าเป็นเพราะบ้านใต้ถุนสูงมีพื้นที่ใช้สอยลดลง บวกกับจะต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน จึงกังวลว่าในอนาคตหากมีอายุมากขึ้นจะไม่เหมาะ ขณะที่ยอดขายบ้าน 4 เดือนแรกเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ คือมียอดขายกว่า 300 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 1,000 ล้านบาท

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ผลตอบรับจากการเปิดตัวแบบบ้านใต้ถุนสูงรับมือน้ำท่วมถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทอื่น ๆ คือมีคนให้ความสนใจสอบถามเป็นจำนวนมาก แต่ยอดจองกลับไม่เวิร์ก ปิดการขายได้ 2 หลังเท่านั้น เป็นแบบบ้าน 2 ชั้น ราคาหลังละประมาณ 3.7 ล้านบาท รวมแล้วประมาณ 7.5 ล้านบาท

วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะรูปทรงและสไตล์บ้านอาจยังไม่ถูกใจลูกค้า ประกอบกับกระแสความวิตกกังวลเรื่องน้ำท่วมเริ่มลดลง ส่วนแบบบ้านที่ไปได้ดีคือแบบบ้านที่ยกพื้นชั้นล่างให้สูงจากดินประมาณ 80 ซม. และใช้วิธีก่ออิฐเพื่อปิดช่องว่างระหว่างพื้นบ้านและพื้นดิน โดยมียอดจองกว่า 20 หลัง คิดเป็นยอดขาย 90-100 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายบ้าน 4 เดือนแรกทำได้ 340 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 60 ล้านบาท

นางพัชรา ตัณฑยรรยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีนบุรี รับสร้างบ้าน จำกัด เปิดเผยในทิศทางเดียวกันว่า หลังจากน้ำท่วมได้เปิดตัวแบบบ้านใต้ถุนสูงเป็นบ้าน 2 ชั้น พร้อมออกแบบแลมป์เป็นเนินสำหรับจอดรถหนีน้ำได้ ราคาหลังละ 4.5 ล้านบาท แต่ถึงปัจจุบันยังไม่มียอดจองเข้ามา แต่สังเกตว่าลูกค้านิยมใช้วิธีถมที่ดินให้สูงขึ้นอีกตั้งแต่ 80 ซม.-1 เมตรขึ้นไป



ที่มา  :  วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2555  กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น