2 ปีนี้ภัยพิบัติธรรมชาติทั้ง "แผ่นดินไหว-น้ำท่วม" ผลัดกันมาเขย่าขวัญคนไทยทั้งประเทศเป็นระยะ ๆ ล่าสุดจึงเกิดเทรนด์การพัฒนา "บ้าน" และ "วัสดุ" เพื่อรับมือภัยพิบัติเกิดขึ้นหนาหูหนาตา
อย่างในงานสถาปนิก"55 ที่จัดขึ้นภายในอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่าง 24-29 เมษายนที่ผ่านมา "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจพบว่ามีผู้ผลิตนำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยมาเปิดตัวกันค่อนข้างคึกคัก แตกต่างจากการจัดงานหลายปีที่ผ่านมา
อย่างบูท "เอสซีจี" ที่จองพื้นที่ใหญ่ที่สุดต่อเนื่องมาหลายปี นำเสนอบ้านสู้ภัยพิบัติใหม่ 2 รุ่น คือ 1) บ้านเอสซีจีไฮ์มรุ่นใหม่ "The Space Series" ที่นอกจากจะต้านแผ่นดินไหวได้กว่า 7 ริกเตอร์ ยังออกแบบระบบไฟฟ้า-ประปาให้สามารถอยู่ได้หากเกิดน้ำท่วม และ 2) บ้านระบบทุ่นลอยน้ำ (Amphibious Home)
แม้ไม่ได้นำบ้านต้นแบบมาโชว์ในงาน เนื่องจากบ้านเอสซีจีไฮ์มรุ่น The Space Series อยู่ระหว่างการพัฒนา ตามแผนบริษัทพร้อมจะทำตลาดปาเข้าไปช่วงต้นปี 2556 แต่ก็มีจุดที่แตกต่างบ้านรุ่นเดิม คือเป็นแบบบ้าน 3 ชั้น จึงสามารถอยู่อาศัยบนชั้น 2-3 ได้หากเกิดน้ำท่วม โดยมีระบบที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้นเมื่อเกิดภัยพิบัติ
ได้แก่ 1) ระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อสำรองไฟฟ้าไว้ใช้งาน ระบบแจ้งเตือนเมื่อพลังงานไฟฟ้าพอเพียงที่จะใช้งาน 2) ระบบสื่อสารภายในบ้าน 3) ระบบบ้านอัจฉริยะ (Home Intelligence) แจ้งเตือนเมื่อน้ำท่วมถังเก็บน้ำชั้นหนึ่ง
4) ติดตั้งถังเก็บน้ำสำรองที่ชั้น 2 ไว้ใช้งานหากน้ำท่วมชั้นล่าง 5) ติดตั้งถังบำบัดบนดินไว้ใช้สำรอง และ 6) ระบบสูบน้ำในบริเวณใกล้เคียงมาบำบัดใช้ในระบบสุขาภายในบ้าน รวมถึงระบบลิฟต์ เป็นฟังก์ชั่นทางเลือกให้ลูกค้า
mock up หรือบ้านต้นแบบ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตร.ม. สำหรับปลูกสร้างบนที่ดิน 100 ตร.ว. ส่วนราคายังไม่กำหนด แต่คาดว่าจะสูงกว่าบ้านเอสซีจีไฮ์มรุ่นปกติ ที่มีราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 25,000-40,000 บาท
อีกตัวคือ "บ้านระบบทุ่นลอยน้ำ" ที่ออกแบบฐานบ้านเป็นโพรง เมื่อน้ำท่วมบ้านจะยกตัวขึ้นตามระดับน้ำ แต่จะไม่ลอยไปไหน เนื่องจากออกแบบให้ยึดติดกับเสาทั้ง 4 ด้าน ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ระบบนำน้ำภายนอกมาบำบัดใช้ในระบบสุขา ระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้ง และระบบปลูกพืชภายในอาคาร เพื่อใช้เป็นอาหาร กำหนดทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 เช่นกัน
ส่วนแวดวงวัสดุค่ายอื่น ๆ ที่น่าสนใจมีจำนวนไม่น้อย อาทิ "อินโนวา ฟลอร์ฯ" นำพื้นไม้ลามิเนตรุ่นใหม่ นำเข้าจากประเทศมาเลเซียมาทดสอบสเปรย์ให้เห็นกันจะจะ พร้อมเคลมว่าสามารถแช่น้ำได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีปัญหาน้ำซึมผ่านร่องลิ้นที่เป็นรอยต่อไม้แต่ละแผ่น ราคารวมติดตั้งเริ่มต้น ตร.ม.ละ 599 บาท พร้อมรับประกันปลวก 10 ปี
ขณะที่ "ลีโอวูด อินเตอร์เทรด" นำไม้ปูพื้นรุ่นใหม่ Leo Aqua ที่มีส่วนผสมของ "ไม้" และ "พลาสติก" มาแช่น้ำให้เห็นกันแบบไม่มีใครยอมใครเช่นเดียวกัน ทางบริษัทเคลมว่า จากการทดสอบ สามารถแช่น้ำได้ 14 วัน ไม่ยืดหดตัว หลุดล่อน สินค้ามีทั้งหมด 8 เฉดสี ราคา (ไม่รวมค่าติดตั้ง) ตร.ม.ละ 1,890 บาท
ศูนย์ค้าวัสดุค่าย "เซ็นทรัล พรีเมียร์ กรุ๊ป" นำกระเบื้องพอร์ซเลนรุ่นนาโน ขนาด 60x60 ซม. ที่มีอัตราซึมน้ำต่ำเพียง 0.1% เทียบกับกระเบื้องทั่วไปในตลาดที่มีอัตราซึมน้ำประมาณ 3% สนนราคาเริ่มต้น ตร.ม.ละ 200-700 บาท และโชว์กระเบื้องแผ่นใหญ่ขนาด 120x90 ซม. ช่วยลดโอกาสเกิดรอยคราบบนพื้นผิวจากปัญหาน้ำซึม
อีกตัวเป็นสินค้าที่น่าสนใจคือ "หญ้าเทียม คาร์เปท อินเตอร์" นำเสนอในงาน ถึงแม้ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ แต่ตลาดก็ตอบรับดีมาก ๆ หลังจากน้ำท่วม เพราะเจ้าของบ้านบางส่วนเปลี่ยนพฤติกรรมมาปูหญ้าเทียมแทนหญ้าธรรมชาติ ราคาเริ่มต้น ตร.ม.ละ 900 บาท ปูด้วยกาวชนิดพิเศษ และผ่านการทดสอบว่าสามารถแช่น้ำได้นาน 7-14 วัน โดยที่กาวไม่หลุดล่อน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของสินค้าสู้ภัยพิบัติ ที่ผู้ผลิตและจำหน่ายนำมาเสนอในงานสถาปนิก"55 โดยผู้บริโภคที่สนใจสามารถแวะชมตามโชว์รูมดีลเลอร์และโมเดิร์นเทรดทั่วไป
ที่มา : วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ประชาชาติธุรกิจ
TAG :บ้าน-วัสดุรับมือภัยพิบัติ เทรนด์ใหม่กระหึ่มงานสถาปนิก"55,ข่าวอสังหา,อสังหาริมทรัพย์,บ้าน,ที่อยู่อาศัย,ข่าวผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง,ข่าวก่อสร้าง,อีบิลด,eBuild,ข่าวสร้างบ้านebuild |