" รู้อย่างช่าง สร้างอย่างปราชญ์ "

 


Knowledges



Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
หน้าหลักข่าวก่อสร้าง     ข่าวเศรษฐกิจก่อสร้าง  
NEWS ชี้ประเทศไทยต้องทำ "สนามบินนานาชาติมาบตาพุด" แข่งโปรเจ็กต์ทวายของพม่าในอนาคต
วันที่ลง : 13-Nov-2012   จำนวนคนอ่าน 1108

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร AREA (บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส) ระบุว่า แม้จะมีสนามบินสุวรรณภูมิ แต่พัทยา-ระยองก็จำเป็นต้องมีสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินพาณิชย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาประเทศโดยตรง

 

การมีสนามบินนานาชาติแห่งชาติ 3 สนามบินคือดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ  เหตุผลในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาได้แก่

 

1. สนามบินอู่ตะเภามีศักยภาพสูง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบยึดสนามบินสุวรรณภูมิในปี พ.ศ. 2551 สนามบินนี้ยังสามารถใช้เป็นสนามบินทดแทน-สำรองได้  นอกจากนั้นสนามบินนี้ยังมีพื้นที่ที่สามารถขยายตัวได้มาก การเวนคืนพื้นที่อื่นเพื่อสร้างสนามบินคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากกว่าการแปลงสนามบินแห่งนี้ให้เป็นสนามบินพาณิชย์นานาชาติ

 

2. สนามบินอู่ตะเภาตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถเดินทางสู่จังหวัดหลักในภาคตะวันออกได้โดยสะดวก ตั้งแต่ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี

 

3. หากพิจารณาจากอสังหาริมทรัพย์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 655,866 ล้านบาททั่วประเทศ เป็นอสังหาริมทรัพย์ในเขตจังหวัดชลบุรีและระยองถึง 14.6% หรือมากกว่าหนึ่งในสี่ของขนาดตลาดของกรุงเทพมหานคร และหากรวมจันทบุรี ขนาดตลาดอาจประมาณหนึ่งในสามของกรุงเทพมหานคร สมควรที่จะมีสนามบินเป็นของตนเอง

 

4. มูลค่าการขายอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในเขตจังหวัดชลบุรีและระยอง มีมูลค่าถึง 94,531 ล้านบาท หรือเท่ากับค่าก่อสร้างสนามบินใหม่ 1 สนาม  การนี้แสดงให้เห็นว่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ขยายตัวมากกว่าจังหวัดอื่นที่มีสนามบินอย่างมากมาย เช่น หากเทียบกับนครราชสีมา ชลบุรี-ระยอง มีขนาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่กว่าถึง 16 เท่า  ใหญ่กว่าสุราษฎร์ธานี 24 เท่า ใหญ่กว่านครศรีธรรมราช 29 เท่า  ใหญ่กว่าอุดรธานี และพิษณุโลก 37 เท่า  ดังนั้นจึงควรมีสนามบินเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

 

5. ท่าเรือน้ำลึกทวายของประเทศพม่า อาจมีขนาดใหญ่กว่ามาบตาพุดของไทยถึง 10 เท่า และยังมีสนามบิน ดังนั้นเพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันกับสากลได้ สนามบินมาบตาพุดจำเป็นต้องเป็นสนามบินนานาชาติ

 

6. ความมั่นคงของชาติมาจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารหรือหน่วยทหาร ดังนั้นหากประเทศไทยมุ่งเน้นความสำคัญของความมั่นคงของชาติจึงจำเป็นต้องขยายสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่

 

7. การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินแห่งชาติแห่งที่ 3 นั้น จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันยิ่งสูงขึ้น จะยิ่งเป็นศูนย์กลางทางบินของภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติอาจมีข้อขัดข้องหลายประการ ที่จำเป็นต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้ร่วมมือกับพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติแห่งชาติสนามบินที่ 3 ของประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศในระยะยาว

 

 

ที่มา  ประชาชาติธุรกิจ



TAG :ดร.โสภณ พรโชคชัย,สนามบินสุวรรณภูมิ,พัทยา-ระยอง,สนามบินอู่ตะเภา,สนามบินนานาชาติเ

ร่วมแสดงความคิดเห็น

ชื่อ
Comment
กรุณาป้อนข้อมูลตามที่ปรากฏ

ข้อความในส่วนแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็นข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ feedback@ebuild.co.thเพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้
ความคิดดี

15-Nov-2012  16:40:41
ใช่ควรพัฒนาสนามบินแห่งนี้ให้ทันสมัยระดับเดียวกับสุวรรณภูมิเพื่อเตรียมพร้อมด้านการแข่งขัน ควรขยายสนามบินให้ใหญ่ขึ้น ขยายมามาทางแถบ อ.สัต***บให้มากๆถึงพันๆไร่ เพื่อจะได้ลดต้นทุนการพัฒนาเพราะเขตสัต***บส่วนใหญ่เป็นพื้นที่หลวงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเวนคืนที่ดินจากประชาชน และอีกทางหนึ่งจะได้เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินมากขึ้น





สินค้าหมวดสถาปัตย์
สินค้าหมวดโครงสร้าง
แหล่งความรู้
eBuild Team
www..co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Privacy Policy
Copyright 2009 Ebuild Co., Ltd. All Rights Reserved.