นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดกระเบื้องมุงหลังคาครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่คาดว่าในช่วงปลายไตรมาส 3 ขึ้นไตรมาส 4 ดีมานด์การใช้จะเพิ่มสูงขึ้น เป็นไปตามการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง บริษัทมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าป้อนงานโครงการประมาณ 3,000 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 180 ล้านบาท
"ขณะนี้ผู้ผลิตต่างประสบปัญหาต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนพลังงาน ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าขนส่ง ทำให้ไม่สามารถปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนรวมจะเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 2-3% แต่ยังโชคดีที่ภาครัฐมีมาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ทำให้เรายังพอบริหารจัดการต้นทุนได้" นายสาธิตกล่าว
กระเบื้องต้นทุนกระฉูด
นายธนนิตย์ รัตนเนนย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องปูพื้นคอตโต้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดกระเบื้องไตรมาส 3/55 ความต้องการมีน้อยลงเป็นปกติ ตลาดจะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส ในส่วนยอดขายของบริษัทในไตรมาสนี้ติดลบประมาณ 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/55 ทั้งนี้ เทียบยอดขายปีต่อปีตลาดรวมเติบโตประมาณ 2-3% จากมูลค่าตลาดรวม 20,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 30%
"ยอดขายที่ลดลงไม่มีนัยอะไร เป็นแบบนี้ทุก ๆ ปีอยู่แล้ว เราประเมินว่าช่วงครึ่งปีหลังภาวะการขายจะกลับมาขายดีเหมือนเดิม เนื่องจากดีมานด์ยังมีอีกมาก อุปสรรคคือต้นทุนพลังงานที่ใช้แก๊สในการผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไตรมาสละ 15% บริษัทมีแผนลดการใช้พลังงานแก๊สลง หันไปใช้พลังงานทางเลือกรูปแบบไบโอแมสเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ 3-4%"
"สุขภัณฑ์" ยอดพุ่ง
นายธนศักดิ์ สาคริกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำคอตโต้ ในกลุ่มเอสซีจี กล่าวว่า ทิศทางตลาดสุขภัณฑ์ครึ่งปีหลังคาดว่าปริมาณการใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เป็นไปตามการเติบโตและการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาฯที่ฟื้นตัวจากน้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 แม้ว่าต้นทุนค่าแรงของบริษัทจะปรับเพิ่มขึ้นจากนโยบายค่าแรง 300 บาท ค่าขนส่ง และพลังงานประมาณ 10% โดยรวมแล้วทั้งปีประเมินว่าตลาดจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนที่เติบโตเพียงแค่ 5%
"การันตีว่าตลาดรวมปีนี้ดีแน่นอน เพราะความต้องการมีมากขึ้น วัดได้จากยอดขายครึ่งปีแรกของเราโตขึ้นกว่า 10% มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท"
เสาเข็ม-หลังคางานล้นมือ
นายชัยฤทธิ์ วศินสมบัติ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทย กล่าวว่า ธุรกิจเสาเข็มสถานการณ์ดีมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีปัจจัยมาจากงานป้องกันน้ำท่วมของภาครัฐที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลากในปีนี้ รวมไปถึงงานก่อสร้างสาธารณูปโภคและโครงการรถไฟฟ้า
ขณะเดียวกันภาคเอกชนมีความมั่นใจลงทุนโครงการต่าง ๆ มากขึ้นทั้งในส่วนของโครงการจัดสรรและอาคารสูง ตลาดรวมครึ่งปีหลังคาดว่าจะโตมากกว่า 10% โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
"ปีนี้ตลาดเสาเข็มโตดีมาก ผู้ประกอบการทุกรายมีงานล้นมือขนาดต้องเลือกรับลูกค้ากันแล้วเพราะทำไม่ทันจริง ๆ จะเลือกรับงานที่มีมูลค่าใหญ่ไว้ก่อน ส่วนราคาขายได้มีการทยอยปรับมาแล้วประมาณ 15% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น"
นายสรพล คงรอด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮาส์ เฟรนด์ลี่ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตโครงหลังคาสำเร็จรูปแบรนด์ "อีซี่ทรัส" เปิดเผยว่า แนวโน้มครึ่งปีหลังได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของธุรกิจบ้านจัดสรรและธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่นิยมหันมาใช้สินค้าประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นแทนการใช้เหล็กรูปพรรณแบบเดิม
"ปีนี้ผู้ประกอบการโครงหลังคาสำเร็จรูปโตเหมือนกันหมด ในส่วนของบริษัทคาดว่าจะโตถึง 100% มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนต้นทุนรวมปรับขึ้นไม่มากนักเนื่องจากภาครัฐยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร" นายสรพลกล่าว
เหล็กซัพพลายล้น ราคาทรุด
นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณการใช้เหล็กในภาคงานก่อสร้างของไทยโดยรวมอยู่ที่ 5-6 ล้านตัน/ปี แนวโน้มการใช้เหล็กในครึ่งปีหลังยังเติบโตต่อเนื่องตามการลงทุนของภาครัฐและเอกชน แต่ในระยะนี้ความต้องการใช้เหล็กอ่อนตัวลงบ้างเล็กน้อยเพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ความต้องการใช้จะเพิ่มสูงขึ้น โดยมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวตัวแทนจำหน่ายเหล็ก กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณในงานก่อสร้างอยู่ในภาวะเงียบเหงา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากย่างเข้าสู่ฤดูฝนทำให้ยอดการสั่งซื้อโดยรวมลดลง สวนทางกับต้นทุนค่าขนส่งที่ขยับขึ้นประมาณ 10% จากต้นทุนราคาน้ำมัน แต่ไม่สามารถปรับราคาขายเพราะตลาดมีการแข่งขันสูง เพราะซัพพลายมีมากกว่าดีมานด์ 30-40%
"เท่าที่ทราบขณะที่โรงงานผลิตเหล็กหลายแห่งได้ลดกำลังการผลิตลงประมาณ 10% ของกำลังการผลิตรวม ด้านราคาก็มีแนวโน้มจะลดลงมาอีก โดยเหล็กเส้นกลมขนาด 6-15 มม. ช่วงต้นปีเฉลี่ยราคาขาย ก.ก.ละ 21.50 บาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีราคาขาย ก.ก.ละ 22.50 บาท" แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์รายใหญ่ย่านจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ยอดขายไตรมาส 3 ไม่ค่อยคึกคักเหมือนช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามปกติยอดขายในช่วงนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% แต่ปีนี้โตแค่ 2-3% เท่านั้น
ที่มา : 13 ส.ค. 2555 ประชาชาติธุรกิจ
TAG :ค้าวัสดุกัดฟันตรึงราคาครึ่งปีหลัง "กระเบื้อง-สุขภัณฑ์-เสาเข็ม"แข่งสูง-ออร์เดอร์ล้นนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดกระเบื้องมุงหลังคาครึ่งปีหลังถือเป็นช |