นายเศรษฐา  ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทแสนสิริมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ (Presale backlog) ในอีก 1-3 ปีถึงประมาณถึง 40,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นยอดขายล่วงหน้าที่สูงที่สุดในระบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในขณะนี้ รวมทั้งยังนับเป็นยอดรอรับรู้รายได้ที่สูงที่สุดที่บริษัทเคยทำได้ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจ โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ไปจนถึงอีก 3 ปีข้างหน้า โดยในจำนวนนี้เป็นยอดรอรับรู้รายได้ของปี 2555 นี้แล้วถึง 90% จากเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ในปีนี้

นอกจากนี้ในปี 2556 บริษัทยังได้ประมาณการณ์ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้แล้วที่ 36,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2555 หรือในปีนี้ถึงกว่า 30% โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้อย่างแน่นอนเนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ใน 3 ปี ข้างหน้าแล้วถึง 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดรอรับรู้รายได้ของปี 2555 แล้วถึง 90%, ยอดรอรับรู้รายได้ของปี 2556 แล้วถึง 50%,  รวมทั้งมียอดรอรับรู้รายได้ของปี 2557 แล้วประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยเฉพาะใน ปี 2556 นั้นคาดว่าจะเป็นปีที่ดีของบริษัทฯ ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด หลังจากนั้นบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่องได้ประมาณ 10-15% ต่อปี

ในขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 นี้ บริษัทจะมีการขยายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ อีกประมาณ 14 โครงการ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ โดยมีมูลค่าโครงการขายรวมประมาณ 8,100 ล้านบาท

“Presale Backlog ที่บริษัทมีอยู่ ณ ปัจจุบัน จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี  ทั้งนี้ความสำเร็จจากการขยายธุรกิจของแสนสิริให้มีความครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการที่กลุ่มแสนสิริสามารถสร้างยอดขายรอรับรู้รายได้ที่สูงที่สุดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาธุรกิจที่จะสนับสนุนให้แสนสิริเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งและมั่นคง ในขณะที่บริษัทยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง รวมถึงการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อรองรับแก่ลูกค้าที่พร้อมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกในสังคมของแสนสิริที่จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทยนั่นเอง” นายเศรษฐา กล่าว



ที่มา  :  23 ก.ค. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น