กระเบื้อง "โสสุโก้" ภายหลังการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ "เอสซีจี-บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย" กว่า 1 ทศวรรษ กล่าวได้ว่าอยู่ในช่วงพลิกโฉมปั้นแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับผู้ บริโภค รวมทั้งเพื่อรองรับพายุการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 จากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี

ที่ผ่านมา "โสสุโก้" ได้ประกาศเพิ่มงบฯการตลาดจาก 400 ล้านเป็น 500 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำผู้บริโภค โดยเฉพาะการเจาะตลาดสินค้ากลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ หลังจากที่ผ่านมากว่า 18 ปีไม่เคยสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง

"กิตติ ชัย ไกรก่อกิจ" เอ็มดีบริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัดบอกว่า จากนี้ไปเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจจะเน้นให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าสี เขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสินค้าที่เป็นนวัตกรรมที่เพิ่มมูลค่า ซึ่งบริษัทเพิ่งจะมีสัดส่วนสินค้าประเภทนี้เพียง 5-10% เท่านั้น

แผน ลงทุน 3 ปี (2555-2558) "โสสุโก้" จะใช้งบฯ 1,400 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรประหยัดพลังงาน เพื่อเดินไปหาเป้าหมายลดต้นทุนค่าพลังงานในกระบวนการผลิตลงปีละไม่ต่ำกว่า 5% ขณะเดียวกันแผนคู่ขนานคือปี 2557 จะใช้งบฯ 200-300 ล้านบาท ลงทุนขยายกำลังการผลิตจากเดิม 48 ล้าน ตร.ม./ปี เป็น 52 ล้าน ตร.ม./ปี

กลับ มาดูผลประกอบการ 5 เดือนแรกของปีนี้ "โสสุโก้" มียอดขายรวมอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% ตั้งเป้าทั้งปี 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20% โดยแบรนด์ "โสสุโก้" มีส่วนแบ่งตลาด 25% ของตลาดรวมปีละ 200 ล้าน ตร.ม.

แผนธุรกิจใหม่ ๆ ของโสสุโก้ไม่เพียงแต่ทำเรื่องปรับภาพลักษณ์-ลดต้นทุนผลิตในระยะยาว ในแง่โครงสร้างองค์กรก็มีการปรับด้วยเช่นกัน จากเดิมที่ต้องรับผิดชอบการตลาดกระเบื้องเพียงแบรนด์เดียวคือ

โสสุโก้ ต่อเมื่อเอสซีจีเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จึงได้ฝากฝังการทำตลาดกระเบื้องแบรนด์ "คัมพานา" ซึ่งเอสซีจีซื้อกิจการมาเช่นกัน

วันนี้ "กิตติชัย" แห่งกระเบื้องโสสุโก้ถือว่าเริ่มต้นเดินทัพทางไกลอีกครั้ง จากบทบาทผู้ผลิตก้าวสู่การเป็น "เอเย่นต์กรุ๊ป" ที่ต้องรับผิดชอบการตลาดของกระเบื้อง 2 แบรนด์ดังกล่าว

และไม่แน่ว่า กระเบื้องโสสุโก้ที่ภาพลักษณ์เดิมตีตลาดรอบนอก กำลังสะสมความพร้อมเพื่อเคลื่อนทัพสู่พื้นที่การตลาดในเมืองกรุงเต็มอัตรา ศึก...ก็เป็นได้



ที่มา  :  24 มิ.ย. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น