อินเด็กซ์รุกขยายธุรกิจอีเวนต์ต่างประเทศ ลุยเจรจาบริษัทโลคอลในประเทศแถบตะวันออกกลาง เตรียมสร้างอีเวนต์ร่วมกัน คาดมิถุนายนนี้สรุปผล ล่าสุดจับมือพันธมิตรประเทศเกาหลีจัดงานเอ็กซ์โป 2012 ร่วมกับกับภาครัฐคาดดึง 9 แสนคนเข้างาน

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเตรียมขยายธุรกิจอีเวนต์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมเจรจากับประเทศในแถบตะวันออกกลาง โดยร่วมกับบริษัทโลคอลในการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ คาดว่าเดือนมิถุนายนจะสรุปรายละเอียดได้

อย่างไรก็ตาม ต้นปีที่ผ่านมาอินเด็กซ์ได้ขยายธุรกิจอีเวนต์ในต่างประเทศ โดยเฟสแรกที่ประเทศพม่า เวียดนาม ตามด้วยกาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย และการร่วมทุนกับบริษัท Dproex ซึ่งเป็นบริษัทรับจัดอีเวนต์เกาหลี ในการจัดงานเอ็กซ์โป 2012 ณ เมืองยอซู โดยอนาคตมีแผนร่วมทุนกันในอีกหลายอีเวนต์ซึ่งปีหน้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 20% และในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 35-40%

สำหรับกลยุทธ์ที่นำมาใช้กับไทยแลนด์พาวิเลียนครั้งนี้คือ เน้นสร้างการรับรู้และความประทับใจให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม เช่น มาสคอตสุดสาคร และขบวนทูตแห่ง

ท้องทะเลไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ รอบเมืองยอซู

นอกจากนี้ยังมีการสร้างสรรค์หุ่นยนต์นางเงือกตัวแรกของโลก เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของประเทศไทยและเกาหลี และในห้องนิทรรศการสุดท้ายได้พัฒนาเทคนิค senses machine นำเสนอเรื่องราวของทะเลและชายฝั่งไทยบนจอภาพแบบ 360 องศา พร้อมเปิดมุมมองของท้องทะเลไทยที่สวยที่สุดทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย

"ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า แบรนด์ไทยไม่ใช่แบรนด์ที่จะดึงดูดผู้ชมเข้ามาในพาวิเลียน แล้วจะทำอย่างไรเพื่อดึงให้ผู้ชมเข้ามาตามเป้าหมาย กลยุทธ์ทางการตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นอินเด็กซ์เริ่มเกมแรกด้วยการสร้างพาวิเลียนให้เสร็จก่อนงานเริ่ม 15 วัน เพื่อให้ทันรอบทดลองเปิดงานที่มีระยะเวลา 3 วัน ปรากฏว่าได้ผลตอบรับจากสื่อมวลชนเกาหลีเป็นอย่างดี ต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นการสู้ด้วยแนวคิดทางการตลาดจริง ๆ"

รวมถึงมีการจัดแสดงโชว์ที่นำเอาเอกลักษณ์ของประเทศไทยออกมาสื่อสาร เช่น รำเคียวเกี่ยวข้าว โขน พระอภัยมณี โดยมีการแสดง 4 รอบต่อวัน เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวให้แก่พาวิเลียน

ทั้งนี้ ไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย คาดการณ์ว่าจะเติบโต 15% หรือมีรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ดร.บำรุง ฉัตรอนันทเวช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เอ็กซ์โป 2012 ยอซู ณ เมืองยอซู ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2555 เพื่อต้องการแสดงศักยภาพด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลของไทย รวมถึงการส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้

ทั้งนี้ มีตัวแทนจากกว่า 106 ประเทศทั่วโลก และองค์กรนานาชาติ คาดว่าตลอดการจัดงาน 3 เดือน จะมีประชาชนจากทั่วโลกเข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 9 ล้านคน

สำหรับไทยแลนด์พาวิเลียนปีนี้ภายใต้แนวคิด "สีสันบนความหลากหลาย ในศิลป์แห่งวรรณกรรมและจิตรกรรมท่ามกลางธรรมชาติวิถี" ด้วยงบฯลงทุน 259 ล้านบาท และเชื่อว่า ไทยแลนด์พาวิเลียนจะเป็น 1 ใน 5 ของพาวิเลียนยอดนิยมในงานนี้ โดยมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 900,000-1,000,000 คน



ที่มา  :  วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น