แบงก์มั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า ด้านโบรกเกอร์คาดกำไร Q1/55 โตกระฉูด 3.7 หมื่นล้านหลังพ้นช่วงน้ำท่วม ภาระสำรองหนี้ลด คาดลงทุนรัฐเอกชนหนุน ด้านแบงก์เล็กรับอานิสงส์รถคันแรก

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานความเคลื่อนไหวของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ว่า ปี 2555 ธนาคารแต่ละแห่งสามารถขยายสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักวิเคราะห์มีความเห็นในเชิงบวกต่อทั้งกลุ่ม ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่กล่าวสอดคล้องกันถึงความเป็นไปได้ที่สูงถึงการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า อีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปี สินเชื่อของธนาคารมีทิศทางขยายตัวดี โดยเฉพาะหากทั้งภาครัฐและเอกชนเดินหน้าลงทุน แต่ธนาคารยังไม่มีการปรับเป้าหมายการขยายสินเชื่อปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 12-14% เพราะแม้จะมองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี แต่ยังมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่ต้องเฝ้าระวัง

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 1/55 ที่กำลังจะรายงานในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ว่า ในภาพรวมของกลุ่มทุนธนชาต หรือ TCAP มีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเกิดจากทั้งการบริหารจัดการที่ดี รวมถึงการขายสินทรัพย์ในธุรกิจของบริษัทลูก ส่วนการขยายสินเชื่อยังคงอยู่ในกลุ่มเช่าซื้อเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าธนาคารธนชาตจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดได้ที่ 20% และทำให้สินเชื่อทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10%

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยากล่าวว่า ผลประกอบการ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1/55 (ไม่รวมธนาคารกรุงศรีอยุธยา) จะมีกำไรประมาณ 3.6-3.7 หมื่นล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาส 4/55 80% และเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจาก 2 ปัจจัยคือ ค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้ที่เข้าสู่ภาวะปกติเมื่อความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อลดลงหลังปัญหาน้ำท่วมคลี่คลาย ต้นทุนการบริหารงานลดลง รวมทั้งมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรทั้งปีของกลุ่มฯคาดว่าจะอยู่ที่ 1.42 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า ส่วนการขยายตัวสินเชื่อทั้งปีจะอยู่ที่ 9.1% โดยเกิดจากการฟื้นตัวหลังน้ำท่วมและการลงทุนใหม่ ซึ่งจะเติบโตอย่างชัดเจนทุกกลุ่ม ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่จะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก

"เรามองว่าแบงก์จะได้ประโยชน์จากที่ธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีจะลงทุนขยายธุรกิจเพิ่ม รวมถึงการใช้สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมหลังจากน้ำท่วม และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะเติบโตดีเช่นกัน"

นายธนเดชกล่าวอีกว่า ธนาคารกรุงไทยจะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ แต่ยังขึ้นอยู่กับเม็ดเงินแต่ละโครงการที่จะผ่านการอนุมัติในปี 2555 ส่วนธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์จะมีสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขยายตัวได้ดี และธนาคารกสิกรไทยจะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อเอสเอ็มอี ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีโครงการรถคันแรกเป็นปัจจัยหนุน ธนาคารเกียรตินาคินและธนาคารทิสโก้จะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยคาดว่าจะมีการเติบโตของสินเชื่ออยู่ที่ 15-17% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10%

นางสาวสุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินผลดำเนินงานกลุ่มธนาคารสอดคล้องกันว่าในไตรมาสแรกจะขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 80-90% และ 2-3% จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกของปี 2555 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดคือ 80-90% เทียบกับไตรมาส 4/54 จากการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ ส่วนแนวโน้มการขยายสินเชื่อ คาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 11-15% โดยคาดว่าการเร่งตัวจะอยู่ในครึ่งหลังของปีเป็นหลัก

ข้อมูลจาก ธปท.ระบุว่า ในเดือน ก.พ.สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 15.5% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ชะลอจาก 16% ในเดือน ม.ค. แต่ก็ถือว่าขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยสินเชื่อบุคคลยังคงขยายตัวได้ดี ขณะที่สินเชื่อธุรกิจทรงตัว




ที่มา  :  วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น