" รู้อย่างช่าง สร้างอย่างปราชญ์ "

 


Knowledges



Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
หน้าหลักข่าวก่อสร้าง     ข่าวเศรษฐกิจก่อสร้าง  
NEWS ไนท์แฟรงค์ชี้คอนโดแจ้งวัฒนะยอดพุ่ง ผลตอบแทนนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า 7-9% สูงกว่าทำเลในเมือง
วันที่ลง : 14-Mar-2012   จำนวนคนอ่าน 827

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2554 อุปทานคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 261,616 หน่วย โดยอุปทานคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปีพ.ศ. 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 42,842 หน่วย

อุปทานที่เพิ่มขึ้นในปีที่แล้วมีจำนวนลดลงจากปี 2553 ลดลงในสัดส่วนร้อยละ 39 ของจำนวนอุปทานที่เปิดขายใหม่ในปีพ.ศ. 2553

อย่างไรก็ดี บริเวณชานเมืองกรุงเทพมหานครยังคงเป็นบริเวณที่มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในอัตราสูงที่สุด คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 65 ของจำนวนอุปทานที่เปิดขาย ณ ปี 2554 บริเวณชานเมืองที่เป็นบริเวณที่มีอุปทานคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมากได้แก่

1)บริเวณ ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้แก่ บริเวณส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เริ่มเปิดให้บริการในปีที่แล้ว จากอ่อนนุชไปยังสถานีแบริ่ง โดยคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายบริเวณนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2554 มีอยู่ราว 26,903 หน่วย

2)บริเวณทางใต้ของกรุงเทพฯ ได้แก่ บริเวณตากสิน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่เปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2552 จากสะพานตากสินไปยังสถานีวงเวียนใหญ่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้มีจำนวนคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 ถึงพ.ศ. 2554 อยู่ราว 19,611 หน่วย

3)บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพฯ ได้แก่ บริเวณถนนงามวงศ์วาน และ แจ้งวัฒนะ ซึ่งเริ่มมีการเปิดตัวช้ากว่า 2 บริเวณข้างต้น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดการแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2559 มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขาย ณ ปลายปี 2554 อยู่ราว 15,185 หน่วย

นายพนมกล่าวว่า อุปทานในบริเวณนี้หากเทียบกับบริเวณอื่น ๆในกรุงเทพฯ ถือว่าอุปทานยังมีจำนวนไม่สูงนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปทานที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะจริง ๆ มีเพียง 5,386 หน่วย

นอกจากนี้ในจำนวน 5,386 หน่วย ยังมีโครงการที่อยู่ห่างถนนใหญ่หรือ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอยู่ถึง 1,765 หน่วย หากเปรียบเทียบจริง ๆ คอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลดี บนนถนนแจ้งวัฒนะมีอุปทานเพียง 3,621 หน่วย

จากข้อมูลยังพบด้วยว่า ในบริเวณนี้มีการพัฒนาของภาครัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก หากแต่ข้อกล่าวถึงเพียงโครงการที่เด่น ๆ และส่งผลให้เกิดความต้องการคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ดังนี้

ณ ปลายปี 2551 การพัฒนาศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแล้วเสร็จ และหน่วยงานราชการ 33 หน่วยงาน ได้เข้าใช้พื้นที่เต็ม ในปี 2554

ปี 2552 การพัฒนาห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

ปี 2555 การพัฒนาอาคารจอดรถแห่งใหม่ของศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็คเสร็จเรียบร้อย สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 1,400 คัน รวมทั้งโรงแรมสี่ดาวขนาด 381 ห้อง อยู่ติดกับอาคารชาเลนเจอร์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงการบ้านใหม่ที่เมืองทองธานี โครงการแรกเป็นการพัฒนาอาคารพาณิชย์ที่มียอดขายรวม 277 ล้านบาท และการเปิดขายอาคารชุดที่เป็นอาคารเก่า 2 โครงการ คือ ป๊อปปูล่า คอนโดมิเนียม และ โกลเด้น เลควิว

ปี 2559 คาดว่าการพัฒนารถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูและสายสีม่วงจะดำเนินการแล้วเสร็จ โดยรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู เส้นทางจากปากเกร็ด-หลักสี่-มีนบุรี-สุวินทวงศ์ เป็นโครงการศึกษาเพื่อก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล (ซึ่งถูกกำหนดให้ใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือรถไฟฟ้าขนาดเบา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโมโนเรล (monorail)) ระยะทางทั้งสิ้น 27 กิโลเมตร และในภายหลังได้มีการศึกษาเพื่อต่อขยายต้นทางจากปากเกร็ดมายังแคราย เพื่อเชื่อมกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ที่กำลังก่อสร้าง ใช้เส้นทางศูนย์ราชการนนทบุรี-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร

ปี 2558-2559 คาดว่าการพัฒนาโครงการไฟสายสีแดง บางซื่อ รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร  ซึ่งใช้เส้นทางผ่านสถานีต่าง ๆ ทั้งสิ้น 8 สถานี

กลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ได้แก่ ผู้ที่พักอาศัยที่มีที่พักในรูปแบบบ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนนทบุรีซึ่งข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไป หรือผู้ที่มีบ้านพักในหมู่บ้านบริเวณแจ้งวัฒนะ กล่าวคือ หมู่บ้านกฤษดามหานคร หมู่บ้านเมืองทองธานี นิชาดาธานี และมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมให้กับลูกหลานเพื่ออยู่ในละแวกไม่ไกลนัก จึงนิยมซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ เก็บไว้ให้กับลูกหลาน

นอกจากนี้ยังอาจซื้อเก็บไว้ในอนาคต เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งผ่านบริเวณแจ้งวัฒนะและงามวงศ์วาน ซึ่งมีผลในด้านราคาในอนาคตของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้

รวมทั้งยังมีกลุ่มข้าราชการซึ่งศูนย์ราชการได้ย้ายมาตั้งในบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ เช่นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และส่วนราชการอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ห่างไปหน่อยจะมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีผู้ปกครองได้ซื้อให้ลูกหลานที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่คอนโดมิเนียมดังกล่าวมักมีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณถนนงามวงศ์วาน

จากสภาพที่รายล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัย และ สถาบันการศึกษาต่างๆ ทำให้บริเวณนี้มีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ปกครองที่มีลูกศึกษาในมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกทั้งในอนาคตมหาวิทยาลัยหอการค้าจะย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย

แนวโน้มยังมีกลุ่มนักลงทุนระยะยาวที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากอัตราการเข้าพักของอพาร์ทเมนท์ในบริเวณนี้อยู่สูงถึงร้อยละ 99.5 ทำให้นักลงทุนสนใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า โดยรูปแบบห้องที่เป็นที่นิยมสำหรับการปล่อยเช่าคือ แบบสตูดิโอ หรือแบบ 1 ห้องนอนขนาดเล็ก ซึ่งผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่าในบริเวณนี้พบว่ามีผลตอบแทนที่สูงกว่าบริเวณใจกลางธุรกิจบางแห่ง กล่าวคือ ผลตอบแทนในการปล่อยเช่าในบริเวณนี้สูงถึงร้อยละ 7-9

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ผู้ลงทุนซื้อโครงการในบริเวณนี้ควรพิจารณา นายพนมอธิบายว่า เริ่มจาก "สถานที่ตั้ง" โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าอยู่คือโครงการที่มิได้ตั้งอยู่ในบริเวณถนนใหญ่ เนื่องจากมลภาวะทางเสียงค่อนข้างเยอะ หากแต่การตั้งอยู่ในซอยควรอยู่ในซอยที่ไม่ลึกไม่มากว่า 300 เมตร

"รูปแบบห้องพัก" มีให้เลือกทั้งห้องพักแบบสตูดิโอ หรือ ห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ที่มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากับ
สตูดิโอ เนื่องจากห้องพักแบบ 1 ห้องนอนจะดูมูลค่าสูงกว่าสตูดิโอ ในแง่การปล่อยเช่า

"ขนาดห้องพัก" ขนาดห้องที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่หรือเล็กไปคือ ราว 28- 32ตารางเมตร  และหากถ้าเป็นขนาด 1 ห้องนอนได้ยิ่งดี

"สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ"  มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน กล่าวคือ พนักงานรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และ สวน

"ระดับราคา" ระดับราคาขายในบริเวณนี้มักเป็นระดับราคาขายที่ไม่แพง กล่าวคือ อยู่ในระดับต่ำกว่ายูนิตละ 2 ล้านบาท

นายพนม ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ว่า อุปทานคอนโดมิเนียมที่พัฒนาในบริเวณนี้นับตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปลายปี 2554 มีอุปทานราว 15,185 หน่วย ซึ่งอาจดูมีจำนวนมาก หากแต่มีจำนวนหน่วยจากโครงการที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่สะดวกจริง ๆ คือ อยู่ใกล้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสะดวกในการเดินทางเข้าเมือง เนื่องจากใกล้บริเวณจุดขึ้นลงทางด่วน มีเพียง 5,386 หน่วย หรือ เพียงร้อยละ 36 ของอุปทานที่เปิดขายในบริเวณนี้ และอัตราการขายคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลที่ดีก็มีอัตราการขายที่สูงกล่าวคือร้อยละ 75



ที่มา  :  วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555 ประชาชาติธุรกิจ



TAG :ไนท์แฟรงค์ชี้คอนโดแจ้งวัฒนะยอดพุ่ง ผลตอบแทนนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า 7-9% สูงกว่าทำเลในเมือง,ข่าวอสังหา,อสังหาริมทรัพย์,บ้าน,ที่อยู่อาศัย,ข่าวผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง,ข่าวก่อสร้าง,อีบิลด,eBuild,ข่าวสร้างบ้านebuild

ร่วมแสดงความคิดเห็น

ชื่อ
Comment
กรุณาป้อนข้อมูลตามที่ปรากฏ

ข้อความในส่วนแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็นข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ feedback@ebuild.co.thเพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้





สินค้าหมวดสถาปัตย์
สินค้าหมวดโครงสร้าง
แหล่งความรู้
eBuild Team
www..co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Privacy Policy
Copyright 2009 Ebuild Co., Ltd. All Rights Reserved.