" รู้อย่างช่าง สร้างอย่างปราชญ์ "

 


Knowledges



Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
หน้าหลักข่าวก่อสร้าง     ข่าวเศรษฐกิจก่อสร้าง  
NEWS แสนสิริเปิดเกมรบชิงเบอร์1อสังหา น้ำท่วม"พฤกษาฯ"ขี่หลังเสือลดเป้าขาย-รับรู้รายได้
วันที่ลง : 24-Jan-2012   จำนวนคนอ่าน 765

เปิดศักราชปีมังกรน้ำอสังหาฯ แข่งดุเดือดมีเดิมพันตำแหน่งแชมป์ยอดขายสูงสุด "แสนสิริ" รุกหนักเปิดตัวใหม่ 44 โครงการ รวมมูลค่า 46,000 ล้าน รุกทุกเซ็กเมนต์ทั้งบน-กลาง-ล่าง ยันต่างจังหวัด เท 600 ล้านตั้งโรงงานชิ้นส่วนสำเร็จรูป "พรีคาสต์" ค่าย "พฤกษาฯ" เปิดตัว 49 โครงการ รวมมูลค่า 34,000 ล้านบาท ปรับแผนเชิงตั้งรับ ชะลอลงทุนโครงการใหม่ในต่างประเทศ เผยเทียบฟอร์มเป้าตัวเลข "แสนสิริ" หวังยอดขาย 32,000 ล้าน ยอดรับรู้ 28,000 ล้าน ส่วน "พฤกษาฯ" ลดเพดานเป้ายอดขาย 29,000 ล้าน ยอดรับรู้ 26,000 ล้าน

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้แสนสิริจะ เปิดตัวโครงการใหม่ 44 โครงการครบทุกเซ็กเมนต์ทั้งระดับล่าง กลาง และไฮเอนด์ รวมมูลค่าโครงการกว่า 46,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 19 โครงการ บ้านเดี่ยว 15 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 10 โครงการ ถือเป็นปีที่แสนสิริจะเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด จากปีที่ผ่านมาเปิดตัว 15 โครงการ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายยอดขายทั้งปี 32,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 28,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 33% และ 40%

แสนสิริลงทุนพรีคาสต์ 600 ล้าน

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่จะรับรู้ รายได้ (backlog) ในปีนี้แล้วจำนวน 15,000 ล้านบาท แต่การที่แสนสิริจะไปถึงเป้าหมายได้จำเป็นจะต้องมีตัวช่วย จึงได้ลงทุนสร้างโรงงานชิ้นส่วนสำเร็จรูป (พรีคาสต์) ย่านลำลูกกา เฟสแรกใช้งบฯ 600 ล้านบาท ก่อสร้างบ้านได้เดือนละ 150 ยูนิต และต้นปี 2556 จะขยายโรงงานเฟสที่ 2 มีกำลังผลิตบ้านเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 50 ยูนิต

ล่าสุดบริษัทเตรียมจัดกิจกรรมการตลาดในลักษณะบิ๊กอีเวนต์ ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์นี้ นำบ้านและคอนโดมิเนียมในเครือแสนสิริมาเสนอขายในงาน "Life Come Home" ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ขณะเดียวกัน แสนสิริจะรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ปีนี้จะเปิดตัว 4-5 โครงการใหม่ที่ภูเก็ต เขาใหญ่ เชียงใหม่ และพัทยา ทยอยเปิดตัวไตรมาส 1-2 หลังจากปีที่ผ่านมาได้ชิมลางเปิดตัวแบรนด์ "ดีคอนโด" กะทู้-ภูเก็ต ปรากฏว่ามีผลตอบรับดีเกินคาด สามารถปิดการขายภายในครึ่งวัน ช่วงปลายเดือนมกราคมนี้เตรียมเปิดตัวดีคอนโดโครงการที่ 2 ที่กะทู้-ป่าตอง

"ปีนี้เราจะมีทั้งบ้านไฮเอนด์แบรนด์นาราสิริแข่งกับคิวเฮ้าส์ คอนโดฯราคาต่ำแบรนด์ดีคอนโด แข่งกับ แอล.พี.เอ็น.ฯ และศุภาลัย ถามว่าตั้งเป้าเบอร์หนึ่งไว้อย่างไร ในแง่แบรนด์เชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งแล้ว แต่ตัวเลขรายได้อาจต้องพิสูจน์อีก 2-3 ปี"

พฤกษาฯลดเพดานบิน

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาพฤกษาฯทำยอดขาย (พรีเซล) ได้ 25,554 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 23,200 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 34% และ 27% ตามลำดับ

ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 26,000 ล้านบาท และยอดขาย 29,000 ล้านบาท เติบโต 12% และ 15% ตามลำดับ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (backlog) จำนวน 32,993 ล้านบาท ซึ่งจะพร้อมโอนในปีนี้จำนวน 19,510 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้ยึดติดกับการเป็นเบอร์หนึ่งที่จะต้องมีรายได้สูงสุด

เพื่อพัฒนาคุณภาพบ้านพฤกษาฯให้ดีขึ้น ได้วางนโยบายนำ "ระบบบริหารงานก่อสร้างเชิงอุตสาหกรรม" (real estate manufacturing : REM) มาใช้กับการก่อสร้างบ้านทั้ง 141 โครงการที่เปิดขาย หลังจากปีที่ผ่านมาได้นำร่องใช้กับบางโครงการ และมีอัตราการแก้ไขบ้านในช่วงส่งมอบลดลงกว่าครึ่ง

โดยระบบ REM คือระบบควบคุมการก่อสร้างไปพร้อม ๆ กับการตรวจสอบคุณภาพในทุก ๆ ขั้นตอน จากปัจจุบันบ้านที่ส่งมอบมีอัตราการแก้ไขประมาณ 30% ของทั้งหมด ตั้งเป้าลดลงเหลือ 10-20% ขณะเดียวกันได้ปรับระดับถมดินถนนทั้งโครงการใหม่และโครงการเก่าในเฟสก่อสร้างใหม่ให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดที่ผ่านมา และทำระบบรั้วทึบป้องกันน้ำ

ชะลอลงทุนใหม่ในต่างประเทศ

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าว เสริมว่า พฤกษาฯจะเปิดตัวโครงการใหม่ 49 โครงการ รวมมูลค่า 34,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 28 โครงการ บ้านเดี่ยว 15 โครงการ คอนโดฯ 4 โครงการ และต่างประเทศ 2 โครงการ จากปีก่อนเปิดตัว 50 โครงการ

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพฤกษาฯยังเน้นการลงทุนโครงการแนวราบ เพราะถึงแม้มีน้ำท่วมแต่เชื่อว่าผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อบ้านระดับกลางถึงล่างจะไม่ย้ายทำเลหรือเปลี่ยนไปซื้อคอนโดฯแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ยอดรับรู้รายได้ในเดือนตุลาคม-ธันวาคมปีที่ผ่านมา ก็มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับคือ 780 ล้านบาท 1,111 ล้านบาท และ 2,800 ล้านบาท สะท้อนถึงทิศทางกำลังซื้อที่ดีขึ้น

สำหรับการปรับกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทยังรวมถึงแผนการลงทุนใหม่ในต่างประเทศ โดยตัดสินใจชะลอการลงทุนโครงการที่มัลดีฟส์ และเมืองเชนไน (อินเดีย) เพื่อให้ระดับกระแสเงินสดของบริษัทเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาแผนการลงทุนเชิงรุกในต่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง




ที่มา  :  วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555 ประชาชาติธุรกิจ



TAG :

ร่วมแสดงความคิดเห็น

ชื่อ
Comment
กรุณาป้อนข้อมูลตามที่ปรากฏ

ข้อความในส่วนแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็นข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ feedback@ebuild.co.thเพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้





สินค้าหมวดสถาปัตย์
สินค้าหมวดโครงสร้าง
แหล่งความรู้
eBuild Team
www..co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Privacy Policy
Copyright 2009 Ebuild Co., Ltd. All Rights Reserved.