นส.สมพิศ เจริญเกียรติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ว่า จากการสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทุกประเภทธุรกิจ ทุกขนาด และทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่เป็นลูกค้าของธนาคาร จำนวนกว่า 2,000 ราย พบว่า ดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2554 อยู่ที่ระดับ 53.52 ลดลงจากระดับ 53.94 ในไตรมาสก่อน แม้ว่าดัชนีลดลงไม่มาก เนื่องจากเป็นผลการสำรวจในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่ปัญหาอุทกภัยยังไม่รุนแรง และยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นของนักธุรกิจ ที่มีต่อปัญหาอุทกภัย และความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ราคาวัตถุดิบ และค่าแรงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ในกลุ่มของผู้ส่งออกนั้น ผลการสำรวจพบว่า มีความกังวลเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตลาดส่งออกหลักในยุโรป และสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสสุดท้ายนี้ คาดว่า ดัชนี KTBI จะลดลงอีก เนื่องเพราะนอกจากจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงเดิมที่มีอยู่แล้ว นักธุรกิจยังต้องประสบกับปัญหาด้าน Supply หรือวัตถุดิบในการผลิตที่อาจจะขาดแคลน เพราะนิคมอุตสาหกรรมสำคัญได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งล้วนเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย จึงทำให้มีการคาดว่า GDP ในปีนี้ จะลดลงจากที่ประมาณการไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ1"
นส.สมพิศ กล่าวอีกว่า แม้ปัญหาอุทกภัยในปีนี้จะรุนแรงกว่าที่คาดไว้ แต่หากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมแรงร่วมใจ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่และรวดเร็ว รวมทั้งมีมาตรการฟื้นฟู(อย่างชัดเจน)หลังน้ำลด ก็จะช่วยให้นักธุรกิจคลายความวิตกลงและความเชื่อมั่นจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา
สำหรับธนาคารกรุงไทย ได้เพิ่มมาตรการในการช่วยเหลือลูกค้า ทั้งภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อย โดยพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน
ส่วนลูกค้าขาดกลางและขนาดย่อม( SME) และรายย่อยที่ไม่มีรายได้ ธนาคารคิดดอกเบี้ย 0% พร้อมพักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจประเภทเงินทุนหมุนเวียนที่มีเอกสารประกอบ ธนาคารจะพิจารณาต่อตั๋วออกไปอีก 6 เดือน รวมทั้งขยายการช่วยเหลือไปยังลูกค้าสินเชื่อที่คู่ค้าได้รับผลกระทบนอกจากนี้ ยังได้ปรับ 7 มาตรการช่วยเหลือเดิม โดยขยายเวลาให้ดอกเบี้ยอัตราต่ำพิเศษเป็น 3 ปี และยืดระยะเวลาชำระหนี้เป็น 7 ปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 26 ตุลาคม 2554
TAG : |