นายศิริวัฒน์ ขจร ประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด รวมทั้งกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคการส่งออกนั้น กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากภาคเอกชน เพื่อนำเสนอต่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อใช้ในการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งได้กำชับไปยังทูตพาณิชย์ ให้เร่งสร้างความมั่นใจต่อเอกชน คู่ค้า และนักลงทุนที่มีการลงทุนในไทยด้านการผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป ปรับเป้าส่งออกปีหน้าโตไม่ถึง15% พาณิชย์รับสำลักน้ำท่วม GDPอุตฯจ่อติดลบ1.5% ข่าวอสังหาริมทรัพย์ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2554 01:47:46 น.
นายศิริวัฒน์ ขจร ประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด รวมทั้งกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคการส่งออกนั้น กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากภาคเอกชน เพื่อนำเสนอต่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อใช้ในการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งได้กำชับไปยังทูตพาณิชย์ ให้เร่งสร้างความมั่นใจต่อเอกชน คู่ค้า และนักลงทุนที่มีการลงทุนในไทยด้านการผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป
" การส่งออกไตรมาส 4 ปีนี้ ยอมรับว่าได้รับผลกระทบทุกภาคส่วนการส่งออก และคาดว่าตัวเลขส่งออกจะลดลง แต่ก็หวังว่าภาพรวมการส่งออกทั้งปีจะได้ตามเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะ เติบโตในอัตรา 15% ขณะที่เป้าหมายปีหน้าคาดว่าจะต้องมีการปรับแผน และอาจจะลดลงจากปีนี้เล็กน้อย"
มีรายงานข่าวจาก กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สำหรับมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าจะสามารถขยายตัวได้ที่ 15% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 224,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ทั่วโลกยังหวั่นวิตกปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป(อียู) จะกระทบต่อการส่งออกในเดือนที่เหลือของปีนี้ก็ตาม ส่วนในปี 2555ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% แต่หลังจากเกิดวิกฤติหนี้กลุ่มประเทศยูโร และอุทกภัยครั้งใหญ่ อาจต้องมีการปรับเป้าลงตามสถานการณ์
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดอยุธยาและปทุมธานี รวมทั้งโรงงานที่ตั้งอยู่นอกนิคมในจังหวัดที่ประสบภัย คาดว่า จะฉุดให้ภาคอุตสาหกรรมไทยหดตัวอย่างรุนแรง
ในกรณีพื้นฐาน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI (Manufacturing Production Index) ในไตรมาสที่ 4/2554 อาจหดตัวร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมตลอดทั้งปี 2554 อาจหดตัวร้อยละ 2.8 ในกรณีพื้นฐาน และกรอบคาดการณ์อยู่ที่หดตัวร้อยละ 2.1-3.8
จากทิศทางดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ จีดีพีของภาคอุตสาหกรรม (มูลค่า ณ ราคาคงที่) ในปี 2554 อาจหดตัวร้อยละ 1.5 ในกรณีพื้นฐาน เมื่อเทียบกับปี2553ที่เติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ร้อยละ 13.9
สำหรับอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมาก (มีโรงงานในพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายและโรงงานที่หยุดการผลิตเนื่องจากผลกระทบทางอ้อม คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของอุตสาหกรรมนั้น ได้แก่ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ โรงสีข้าว ผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีโรงงานได้รับความเสียหาย อาทิ รองเท้า สิ่งทอ เครื่องประดับผลิตภัณฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์ โลหะ เครื่องจักร แม่พิมพ์อุตสาหกรรม เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเลนซ์ เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2554
TAG : |