มีชื่อโครงการติดอยู่ในบัญชี พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท สำหรับส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วง "รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" ระยะทาง 8.65 กม. ต้องให้เครดิตกับเจ้ากระทรวงคมนาคม "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" และ "ประภัสร์ จงสงวน" ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ผนึกกำลังเร่งเครื่องโปรเจ็กต์เพื่อไปสู่เป้าหมายเปิดประมูลก่อสร้างให้ ทันภายในปีนี้
ในอนาคตเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมาช่วยเติมเต็มโครงข่ายรถไฟสายสีแดงสาย เหนือจาก "บางซื่อ-รังสิต" ระยะทาง 26 กม. ที่ได้เริ่มเปิดไซต์ก่อสร้างไปแล้วเมื่อต้นมี.ค.ที่ผ่านมา สถานะล่าสุดผลการศึกษาโครงการเสร็จสิ้นแล้ว รอสรุปเสนอให้ผู้บริหาร ร.ฟ.ท. และกระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยได้บริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง "ทีม คอนซัลติ้งฯ" เป็นผู้ศึกษาให้
เงินลงทุนเพิ่ม 2 พันล้าน
ทั้งนี้ จากการรีวิวผลศึกษาโครงการใหม่มีการรีโมเดลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สอดรับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งรูปแบบ ตำแหน่งสถานี และค่าก่อสร้าง ทำให้วงเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 2,200 ล้านบาท จากเดิมประเมินไว้กว่า 5,400 ล้านบาท ล่าสุดตัวเลขอยู่ที่ 7,688 ล้านบาทแยกเป็นค่าเวนคืนกว่า 85 ล้านบาท ค่างานโยธาและราง 4,576 ล้านบาท งานระบบรถไฟฟ้าอีกประมาณ 3,026 ล้านบาท
 สำหรับแนวเส้นทางโครงสร้าง จะสร้างอยู่บนทางระดับดิน แต่ยกระดับคันทางสูงขึ้นจากเดิมเล็กน้อย โดยเทียบเคียงกับสถิติน้ำท่วมปลายปี 2554 เป็นที่ตั้ง
จุดเริ่มต้นโครงการจะต่อเชื่อมกับสายสีแดงช่วง "บางซื่อ-รังสิต" สร้างไปตามแนวรถไฟสายเหนือคู่ขนานไปกับ "ถนนพหลโยธิน-ถนนเลียบคลองเปรมประชากร" ทางทีมกรุ๊ปได้เสนอให้สร้างทางเชื่อมเข้ากับ 2 สถานีหลักเพื่อเข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น ได้แก่ สถานีคลองหนึ่ง-สถานีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
 เปิดจุดที่ตั้ง 4 สถานี
รูปแบบสถานีดีไซน์เป็น 2 ชั้น โดยชั้นชานชาลาอยู่ระดับล่าง ชั้นจำหน่ายตั๋วอยู่ชั้นบน มี 4 สถานีตามรายทางต่อจาก "สถานีรังสิต" ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของช่วง "บางซื่อ-รังสิต" เริ่มนับหนึ่งเป็น "สถานีคลองหนึ่ง" ตั้งอยู่บริเวณ กม.33+900 ตรงข้ามกับหมู่บ้านไวท์เฮาส์
ถัดมา "สถานีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ" กม.35+600 ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพศูนย์รังสิต จากนั้นเป็น "สถานีเชียงราก" กม.37+450 ใกล้กับหมู่บ้านราชธานีและโรงเรียนวัดเวฬุวัน
สุดท้ายปลายทางที่ "สถานีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" กม.40+200 บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือเอไอที
รื้อ 52 อาคาร-เวนคืนที่ 8 ไร่
สำหรับการเวนคืนที่ดินคาดว่าจะใช้เงินชดเชยกว่า 85 ล้านบาท มีทั้งรื้อย้ายผู้บุกรุกบนเขตทางเดิมตลอดแนวเส้นทาง 8.65 กม. รวม 52 อาคาร มีค่ารื้อย้ายกว่า 62 ล้านบาท
กับเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีเวนคืนที่ดินเอกชนประมาณ 8 ไร่เศษ มี 2 จุด คือ บริเวณซอยรุ่งแจ่มพัฒนา เพื่อสร้างทางเชื่อมกับสถานีคลองหนึ่ง และบริเวณสถานีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คิดเป็นค่าชดเชยกว่า 20 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าจ้างสำรวจพื้นที่ค่าเวนคืนที่ดินเบื้องต้น
 ทั้งนี้ ตามแผนงานถึงแม้รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ จะผ่านการพิจารณาไปแล้ว เมื่อ 16 มี.ค.2555
แต่มีการปรับโมเดลใหม่ จะต้องยื่นใหม่อีกรอบ
ตั้งเป้าปี"58 ตอกเข็ม
ดยเพิ่มเติมในส่วนสถานีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยกระดับสันรางรถไฟให้พื้นระดับน้ำท่วมปี 2554 เพิ่มท่อลอดเพื่อการเชื่อมต่อพื้นที่และการระบายน้ำ การเสริมความแข็งแรงทางรถไฟ สร้างสะพานรถไฟแทนการเสริมความแข็งแรงของสะพานเดิม เป็นต้นจะเร่งเสนอรายงานขออีไอเอ ภายในปีนี้จากนั้นคาดว่าประมาณปี 2557 เสนอให้ ครม.เห็นชอบ เพื่อดำเนินการคัดเลือกผู้รับเหมามาก่อสร้าง ตามแผนอยากจะเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 2558 แล้วเสร็จกลางปี 2560 คำนวณปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 30,000 เที่ยวคน/วัน
โดยความถี่การให้บริการแบ่งเป็น "รถธรรมดา" ประมาณ 5 นาที/ขบวน (ในชั่วโมงเร่งด่วน) และประมาณ 10 นาที/ขบวน (นอกชั่วโมงเร่งด่วน) ใช้เวลาเดินทาง 37 นาที ส่วน "รถด่วน" ประมาณ 25 นาที/ขบวน (ในชั่วโมงเร่งด่วน) และประมาณ 60 นาที/ขบวน (นอกชั่วโมงเร่งด่วน) ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที

ร่วมแสดงความคิดเห็น