ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ปั้นให้เป็น “ย่าน” ยอดนิยมแห่งใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ Urban Fusion Lifestyle ชูเสน่ห์ของความหลากหลายและความเป็นกรุงเทพฯ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่มีชีวิตไม่หยุดนิ่ง ด้วยแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหารและแบรนด์ชั้นนำมากมาย พร้อมชู Street Market คอนเซ็ปต์ใหม่ และชิค โฮเทล บนพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม. ติดถนนสุขุมวิท

นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำภายใต้แบรนด์ W-Property เปิดเผยว่า “บริษัทได้เดินหน้าการก่อสร้างโครงการดับเบิลยู ดิสทริค (W District) ซึ่งบริษัทได้ทุ่มทุน 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็น ไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของกรุงเทพฯ W District มีพื้นที่ 10 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ประกอบ ด้วยพื้นที่รีเทลกว่า 15,000 ตร.ม. รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและมีทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าเข้ามายังโครงการ (สกายวอล์ค), ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ที่จอดรถสะดวกสบาย 750 คัน พร้อมด้วย คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม 2 อาคาร คือ เลอรัก (285 ยูนิต), สกายวอล์ค คอนโดมิเนียม และ เวลซ์เรสซิเด้นท์ (531 ยูนิต) ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คอนเซ็ปต์ของความเป็น W District คือ การเป็นศูนย์ กลางแห่งใหม่ของการใช้ชีวิตในเมือง ทั้งนี้ ได้ออกแบบพื้นที่รีเทลให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ไม่หยุดนิ่ง รับการขยายตัวของที่พักอาศัยในย่านสุขุมวิท มิดทาวน์ ที่ทวีความคึกคักและเติบโตสู่ทำเลที่อยู่อาศัยสุดฮ็อตแห่งใหม่บนถนน สุขุมวิท”
 
W District ได้แบ่งพื้นที่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

ดับเบิลยู ดิสทริค ชิลล์เอ้าท์ ไดนิ่ง แอนด์ แฮงเอ้าท์ โซน (W District Chill Out Mall, Dinning and Hangout Zone) ไลฟ์สไตล์มอลล์ 5 ชั้น พร้อมด้วยพื้นที่เป็นร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ร้านอาหารชั้นนำ และสุดยอดสถานที่แฮงเอ้าท์ต่าง ๆ ด้วยพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร งบประมาณการพัฒนา 650 ล้านบาท  นอกจากนั้น ยังมีการสร้างไอคอนของโซนนี้คือ  อ็อกซี่ เอ็นจิ้น (Oxy engine) พร้อมเป็นสถานที่แฮงเอ้าท์สุดฮิบ ประกอบด้วยห้องอาหาร, Roof Top Bar และ Dance Floor ที่จะมาเติมเต็มความสนุกสนานอย่างสมบูรณ์แบบ มีคอนเซ็ปต์ดีไซน์ของการเป็นศูนย์กลางของโอโซนของ W District  ทันสมัย และนำโอไพโอกรอซซั่ม เพ็นดูลั่ม (Ophioglosum Pendulum) พันธุ์ไม้ป่าหายากชื่อดังของเอเชีย มาตกแต่งอย่างโดดเด่นในรูปแบบ Space Garden

Hi Sukhumvit Hotel โรงแรมแบรนด์ไฮ (Hi) ภายใต้การดำเนินการโดย วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ โดยมีคอนเซ็ปต์เป็นโรงแรมดีไซน์เก๋ สไตล์ Chic Hotel ชูกลิ่นอายและเสน่ห์ของกรุงเทพฯ จำนวน 54 ห้อง ตกแต่งด้วยธีม “Naughty Bangkok บางกอกแซบ บางกอกซน” งบประมาณพัฒนา 200 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการพักโรงแรมมี เอกลักษณ์โดดเด่น และมีความเป็นส่วนตัว โดยอยู่ท่ามกลางแหล่งจับจ่ายซื้อของชั้นนำและสถานที่แฮงเอ้าท์มากมาย

ดับเบิลยู ดิสทริค มาร์เก็ต (W District Market) พื้นที่ 2,354 ตารางเมตร ที่จะถูกเปลี่ยนโฉมสู่ตลาดคนเดินในรูปแบบสไตล์ Street Market แนวใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง ฉีกแบบฉบับตลาดคนเดินทั่วไป งบประมาณการพัฒนาพื้นที่กว่า 100 ล้านบาท W District Market รองรับได้มากถึง 120 ร้านค้า ประกอบด้วยพื้นที่ โซนแหล่งรวมร้านอาหารสุดยอดเมนู Street Food ชื่อดังของกรุงเทพฯ และโซนตลาดแสดงสินค้าพรีเมี่ยม และมีการหมุนเวียนเปลี่ยนสินค้าที่นำมาจัดแสดงเป็นระยะ โดยจะเริ่มด้วยการจัดตลาดสินค้าที่คัดเลือกพิเศษจากตลาดบ้านถวาย ซึ่งเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดของไทยและเป็นสุดยอดฝีมือที่ยอมรับของตลาดโลก โดยมีการนำสินค้าที่ผลิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อวางจำหน่าย W District Market โดยเฉพาะ

ดับเบิลยู ดิสทริค วีคเอน ช็อปปิ้ง สตรีท (W District Weekend Shopping Street) เป็นช็อปปิ้งสตรีท สุดสัปดาห์แห่งใหม่ รองรับได้ถึง 80 ร้านค้า บนพื้นที่ 5,293 ตารางเมตร งบประมาณการพัฒนาพื้นที่กว่า 50 ล้านบาท โดยมีการวางคอนเซ็ปต์เป็นแหล่งช็อบปิ้งที่มีสินค้าผลัดเปลี่ยนไปตามธีมที่ กำหนดไว้ทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับเทรนส์และความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“W-Property จะสร้างแหล่งแฮงเอ้าท์แห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง คือ ชั้น 46 สกายวอล์ค คอนโดมิเนียม โดยจะเปิดให้ผู้ชมทั่วไปขึ้นชมวิวของกรุงเทพฯ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบ มีร้านนั่งชิลล์เอ้าท์ เป็นได้ทั้งที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่นัดพบที่จะเติมสีสันให้กับ W District ยิ่งขึ้น” นายวิชัย กล่าวสรุป

W District โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นศูนย์กลางของความหลากหลายและนำสมัยในแบบ Urban Fusion Lifestyle ตอบสนองชีวิตใจกลางเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง W District พร้อมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถดึงดูดได้ทั้งผู้อยู่อาศัยในย่านดัง กล่าว นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนนักช็อปและผู้ชื่นชอบสถานที่แฮงเอ้าท์ และจะกลายเป็นย่านไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บนถนนสุขุมวิทและพร้อมเปิดให้บริการ สิงหาคม 2556 นี้


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (27  มีนาคม 2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น