นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีความพร้อมเต็มที่ในการดำเนินแผนธุรกิจเชิงรุก ทั้งการลงทุนพัฒนาโครงการในพื้นที่หลักคือกรุงเทพฯ-ปริมณฑล พื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งศุภาลัยถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดอย่างจริงจังเป็นรายแรก ๆ และมีเรื่องใหม่คือเตรียมเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศเออีซี

"ภาพรวม ของศุภาลัย รายได้หลักจะมาจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย 90% อีก 10% มาจากพอร์ตรายได้ให้เช่า มีทั้งออฟฟิศบิลดิ้งที่ตึกศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ พระราม 3, โรงแรมตากอากาศ 2 แห่งในภูเก็ตและสระบุรี เรากำลังลงทุนช็อปปิ้งมอลล์ที่หาดใหญ่"ออกหุ้นกู้ไม่เกิน 2 พันล้าน

นายประทีปกล่าวว่า แผนลงทุนปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 26,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวใหม่รวม 25 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ แนวราบ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 25,000 ล้านบาท

ในจำนวนนี้จะเป็นเม็ดเงิน ลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีสภาพคล่องสูงมาก โดยยอดเงิน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 มีกระแสเงินสดประมาณ 1,800 ล้านบาท บวกกับการบริหารจัดการส่งมอบโครงการที่เป็นแบ็กลอก (ยอดจองรอโอน) อีกประมาณ 13,500 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วจะสูงกว่าความต้องการเงินลงทุนในปีนี้

ดัง นั้น ศุภาลัยแทบจะไม่ต้องการเงินกู้เลย เห็นได้จากมีพอร์ตสินเชื่อเงินกู้พัฒนาโครงการหลายแห่ง แต่เพิ่งจะเบิกออกมาเพียง 1,000 บาท (เพื่อให้มีตัวเลขทางบัญชี) อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ลอตใหม่วงเงิน 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทดแทนหุ้นกู้ลอตเก่าที่กำลังจะหมดอายุ

"ฐานะการเงินจะ เป็นตัวที่บ่งบอกว่าสุขภาพของบริษัทดีมากน้อยแค่ไหน ปีนี้เราแข็งแรงมาก เรามีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้นประมาณ 24% มีต้นทุนการเงินประมาณ 3% กว่า ๆ ขนาดสินทรัพย์เติบโตขึ้น 15.4% หนี้สินเพิ่มขึ้นเพียง 15% แต่ส่วนผู้ถือหุ้นเติบโต 15.8% นั่นคือทรัพย์สินเพิ่มขึ้น หนี้สินเพิ่มเล็กน้อยแต่ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มมากกว่า ก็คือแข็งแรงกว่าเดิม สามารถทำโครงการได้มากกว่าเดิม" นายประทีปกล่าว

สต๊อก รอโอนท่วม 2.1 หมื่นล.

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการของศุภาลัย กล่าวลงลึกรายละเอียดแผนพัฒนาโครงการปีนี้ว่า สรุปผลงานปีที่แล้ว สัดส่วนพัฒนาคอนโดฯมี 71% มูลค่า 16,103.33 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 24% มูลค่า 5,359.32 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 5% มูลค่า 1,012.90 ล้านบาท

ขณะที่มีสินค้าคงคลังหรือสต๊อกที่สร้างเสร็จแล้ว 1,256 ยูนิต แบ่งเป็นส่วนน้อยในโครงการแนวราบจำนวน 292 ยูนิต จากจำนวนที่อยู่ระหว่างพัฒนา 40 โครงการ เฉลี่ยเป็นสต๊อกโครงการละ 6-7 ยูนิต หรือแทบไม่มีสต๊อกเลย โดยส่วนใหญ่สต๊อกจะเป็นห้องชุดเป็นหลัก มูลค่าสินค้าคงคลัง 2,549.74 ล้านบาท

ทั้งนี้มีสินค้าอยู่ระหว่าง สร้างอีกกว่า 1,400 ยูนิต มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ในแผนเตรียมจะก่อสร้างอีกกว่า 3,500 ยูนิต มูลค่ามากกว่า 13,000 ล้านบาท เท่ากับระยะสั้นมีบ้านและคอนโดฯที่พร้อมส่งมอบในปีนี้รวม 21,454.99 ล้านบาท แนวโน้มที่จะทำให้ได้ตามเป้ายอดขายของศุภาลัยที่ 24,000 ล้านบาท และยอดขายของบริษัทลูกอีก 2,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าทำได้แน่นอน

"เรา มีแลนด์แบงก์ในมือมูลค่า 3,600 กว่าล้านบาท แปลงเป็นมูลค่าโครงการคูณด้วย 4 เท่า หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท ยังไม่นับแลนด์แบงก์ที่ตั้งงบฯซื้อใหม่อีก 4,500-5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในปีนี้และปีหน้า ผมสรุปตัวเลขสุดท้ายว่าเราจะมีสินค้าคงคลังเน็ตสุทธิ 25,000 กว่าล้านบาท"

เปิด รายละเอียดเรียงทำเล

นายอธิปกล่าวถึงแผนลงทุนปีนี้ว่า โครงการใหม่ที่เปิดเผยทำเลได้แล้ว ประกอบด้วย ทำเลในเมือง มีคอนโดฯ ศุภาลัย พรีเมียร์ สาทร-นราธิวาส, ทำเลรัชดาฯช่วงพระราม 9 จะเปิดคอนโดฯ ศุภาลัย เวลลิงตัน เฟส 2, ทำเลรัตนาธิเบศร์เปิดคอนโดฯ 1 โครงการใกล้สถานีพระนั่งเกล้า แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ส่วนแนวราบ เพิ่งเปิดตัวศุภาลัยวิลล์ อ่อนนุช-สวนหลวง ที่รอคิวเปิดตัวใหม่คือ ทำเลพระราม 2, ทำเลกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ที่บริษัทประสบความสำเร็จขายใกล้หมด 4 โครงการ จึงเตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 โครงการเป็นทาวน์เฮาส์ และศุภาลัย การ์เดนวิลล์ ศรีนครินทร์-บางนา จะเปิดตัวไตรมาส 3

โครงการในต่าง จังหวัดพัฒนาไปแล้ว 6 จังหวัดคือ ภูเก็ต หาดใหญ่/สงขลา ขอนแก่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ชลบุรี เตรียมเปิดเพิ่มในระยอง อุดรฯ โคราช และมีบริษัทที่สนใจจะเข้าไปลงทุนที่อุบลฯ เชียงราย พิษณุโลก มหาสารคาม และนครศรีธรรมราช แบ่งเป็นเปิดคอนโดฯในพัทยา, บ้านเดี่ยวทำเลบางแสนกับระยอง, ทาวน์เฮาส์ในพัทยา

ส่วนอุดรฯจะเปิด ตัวบ้านเดี่ยว, ภูเก็ตเปิดใหม่ 2 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดฯกับแนวราบ และในเชียงใหม่จะเปิดตัวพร้อมกัน 3 โครงการ เป็นคอนโดฯ 1 โครงการ และบ้านจัดสรร 2 โครงการ

"ตอนนี้สัดส่วนโครงการแนวสูงจะมี 2 ใน 3 กับแนวราบมี 1 ใน 3 แนวโน้มโครงการรถไฟฟ้าจะทำให้บ้านจัดสรรชานเมืองพลิกกลับมา บริษัทก็ต้องรองรับ โดยจัดซื้อที่ดินในทำเลชานเมืองด้วย" นายอธิปกล่าว

ต่าง จังหวัดทำแนวราบ 75%

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหารของศุภาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนลงทุนพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดมีการเติบโตต่อเนื่อง เทียบกับ 2 ปีที่แล้วเพิ่งจะพัฒนา 4 จังหวัด ปี 2555 เพิ่มเป็น 6 จังหวัด ในปีนี้จะเพิ่มอีก 2-3 จังหวัด

กลยุทธ์หลักคือจะเน้นโครงการแนวราบ มีสัดส่วน 75% โครงการคอนโดฯจะเป็นส่วนเสริม 25% เนื่องจากสำรวจพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในต่างจังหวัดนิยมอยู่อาศัยแนวราบ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีฐานลูกค้าแน่นอน และมีกำลังซื้อเข้ามาเติมได้เรื่อย ๆ ที่สำคัญเป็นโปรดักต์ที่มีความเสี่ยงน้อย เป้ารายได้เทียบ 2 ปีที่แล้วมีสัดส่วน 16% ของรายได้รวมบริษัท ปีที่แล้วมีสัดส่วน 25% ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 28.5% และเพิ่มเป็น 30% ในปีหน้า

"โครงการ แนวราบจะเป็นกลยุทธ์หลักที่จะเดินเพราะมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างในเชียงใหม่ เราเริ่ม 1 โครงการเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้กำลังเริ่มโครงการที่ 5-6-7 แม้แต่ภูเก็ต ขอนแก่น ก็คล้ายกัน ล่าสุดเราเป็นบริษัทอสังหาฯรายใหญ่รายแรกจากกรุงเทพฯที่เข้าไปลงทุนใน พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ฯ เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อพฤศจิกายน 2555 มียอดขายแล้วเดือนละ 50-60 ล้านบาท แบรนด์ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ บนที่ดินรวม 60 ไร่ 230 ยูนิต เริ่ม 3-4 ล้านบาท นับว่ามีผลตอบรับอย่างน่าพอใจ ตอนนี้กำลังเจรจาซื้อที่ดินเพื่อเปิดตัวเพิ่ม" นายไตรเตชะกล่าว


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (18  มีนาคม 2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น