เกาะ ติดประเด็นฟองสบู่อสังหาฯ "ประชาชาติธุรกิจ" จับคู่เปิดมุมมองต่างมุม "นิยามฟองสบู่อสังหาฯ" ของ 2 บิ๊กแบรนด์มหาชน "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น-ควอลิตี้ เฮ้าส์" ที่ต่างก็ลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม

เริ่ม จาก "ร.อ.กรี เดชชัย" ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ขณะนี้ตลาดคอนโดฯมีสัญญาณให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังการวางแผนเปิดตัว โครงการใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโครงการใหม่เปิดตัวเป็นจำนวนมาก คอนโดฯที่ขายดียอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากนักเก็งกำไร มีทั้งซื้อขายใบจอง ขายต่อเอากำไรช่วงก่อนโอนกรรมสิทธิ์ แต่สัดส่วนยังไม่มาก เฉลี่ยไม่เกิน 10% เศษ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 80% มาจากกลุ่มที่ต้องการซื้อจริง ๆ

ใน จำนวนนี้ มีทั้งลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองซึ่งเป็นกลุ่มหลัก เนื่องจากมาจากมีคนที่ยอมรับการอยู่คอนโดฯมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากน้ำท่วมใหญ่ บวกกับต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือที่ทำงานเพื่อเลี่ยงรถติด ควบคู่กับลูกค้าบางส่วนก็ซื้อไว้เพื่อการลงทุนรับผลตอบแทนจากค่าเช่า

"ขณะ นี้ฟองสบู่ยังไม่เกิดชัดเจน เพราะราคาขายคอนโดฯที่เปิดตัวใหม่ในทำเลใจกลางเมืองเดี๋ยวนี้ราคาตาราง เมตรละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ทำให้นักเก็งกำไรหายไปบางส่วน เพราะไม่ได้หาลูกค้ามาซื้อต่อได้ง่ายเหมือนเดิม หรือไม่ก็ต้องยอมลดกำไรลงซึ่งก็อาจจะไม่คุ้มค่าที่เข้ามาเสี่ยง"

อย่าง ไรก็ตาม บริษัทก็ไม่ได้ประมาท การทำแผนธุรกิจปี"56 เป็นแผนแบบ...เฝ้าระวัง ไม่พยายามขยายพอร์ตลงทุนคอนโดฯเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 25% ก็จะรักษาระดับนี้ไว้

ส่วนฟองสบู่คอนโดฯจะเกิดหรือไม่นั้น ให้จับตาดูปี"57-58 เพราะเป็นปีที่โครงการคอนโดฯขายดีและทยอยเปิดในปี"55-56 จะทยอยสร้างเสร็จ ถึงเวลานั้นต้องมาลุ้นกันอีกทีว่า...จะมาโอนกรรมสิทธิ์กันครบหรือไม่!

ขณะ ที่ "สุวรรณา พุทธประสาท" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มองว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการเกิดฟองสบู่ในตลาดคอนโดฯ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันกับเมื่อปี"40 แตกต่างกัน โดยเฉพาะธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ถ้าประวัติไม่ดีจะไม่ปล่อยกู้ เช่นเดียวกับสินเชื่อโครงการแบงก์เลือกปล่อยรายใหญ่-รายกลางที่มีประสบการณ์

ส่วนผู้ประกอบการหน้าใหม่หรือรายเล็ก ๆ ก็แทบจะหมดสิทธิ์ ไม่เหมือนปี"40 ตอนนั้นถึงดอกเบี้ยสูงกว่า 10% แต่คนก็ยังอยากกู้ แบงก์ก็อยากปล่อยสินเชื่อ มีแต่โครงการอสังหาฯเปิดขายไปทั่ว

สำหรับ ภาวะการเก็งกำไรในตลาดคอนโดฯ ตอนนี้ก็พอมีบ้าง แต่ไม่ได้มากจนทำให้ตลาดเสียสมดุล ระดับที่เริ่มต้องเฝ้าระวังคือมีการเก็งกำไรเกินกว่า 10% เพราะห้องที่ขายได้ก็ยังมีคนมาโอนกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่ขายได้แล้วไม่มีคนมาโอน

ดัง นั้น ในปีนี้คิดว่าตลาดคอนโดฯ ยังไปได้ คอนโดฯในเซ็กเมนต์ราคายูนิตละไม่เกินกว่า 1-2 ล้านบาท ยังมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีนโยบายภาครัฐที่นำร่องปรับเงินเดือนวุฒิปริญญาตรีเป็น 1.5 หมื่นบาท ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

ผนวกเข้ากับพฤติกรรมผู้ บริโภคยุคปัจจุบันที่ว่า กลุ่มเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน เมื่อคิดจะซื้อบ้านหลังแรกก็จะมองมาที่คอนโดฯ ก่อนเป็นลำดับแรก

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (8  มีนาคม 2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น