สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง "บางซื่อ-บางใหญ่" 30 ปียังปิดดีลไม่ลง "บีเอ็มซีแอล" ลดให้แค่ 1.1 พันล้านบาท จากวงเงินลงทุนรวม 8.5 หมื่นล้านบาท เหลือ 8.4 หมื่นล้านบาท เตรียมเรียกเจรจารอบ 2 ด้าน "ชัชชาติ" ประกาศลั่นหากราคาสุดท้ายไม่ได้ตามเป้า ดึงกลับให้ รฟม.เดินรถเอง หวังเร่งเครื่องนโยบาย 20 บาทตลอดสายรัฐบาลเพื่อไทย

แหล่งข่าว จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 มีมติให้ รฟม.เจรจากับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ลดราคาวงเงินลงทุนโครงการจัดหาระบบและเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บาง ใหญ่) ระยะทาง 23 กิโลเมตร ระยะเวลา 30 ปี จากที่เสนอมา 85,991 ล้านบาท และเสนอกลับมาให้ ครม.พิจารณาอนุมัติใน 30 วัน

โดยให้คณะกรรมการตาม มาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ดำเนินการต่อรอง 5 แนวทางคือ 1.ค่างานระบบขบวนรถไฟฟ้าให้ต่ำลง 2.ค่าใช้จ่ายในการเดินรถและบำรุงรักษาให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับต้นทุน การเดินรถและบำรุงรักษาของผู้ให้บริการเดินรถในปัจจุบัน

3.เจรจา กำหนดอัตราผลกำไรที่เหมาะสม เนื่องจากสัมปทานรูปแบบ PPP Gross Cost ซึ่งรัฐเป็นผู้รับความเสี่ยงค่าโดยสารและจ้างเอกชนเป็นผู้เดินรถและซ่อม บำรุง โดยรัฐจ่ายค่าจ้างเดินรถ มีความแตกต่างจาก PPP Net Cost ที่ผู้รับสัมปทานต้องรับความเสี่ยงทางด้านปริมาณผู้โดยสารและรายได้ค่า โดยสารของโครงการทั้งหมด 4.ปรับลดรายการค่าใช้จ่ายที่เป็นความรับผิดชอบของ รฟม.โดยตรงออกไป

5.ต่อรองอัตราดอกเบี้ยและพิจารณาเปรียบเทียบความ เสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยระหว่างอัตราดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว รวมทั้งผลกระทบต่อภาระทางการเงินของภาครัฐ และ 6.พิจารณาความเหมาะสมของแนวทางการจ่ายคืนค่าลงทุนระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้าให้กับ เอกชนผู้รับสัมปทาน โดยให้เปรียบเทียบภาระทางการเงินระหว่างกรณีที่กำหนดระยะเวลาจ่ายคืนค่าลง ทุนระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเวลา 10 ปีตามที่เสนอ กับกรณีที่รัฐจัดหาแหล่งเงินที่มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่า

แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการมาตรา 13 ได้เชิญบริษัทบีเอ็มซีแอลมาเจรจา ผลสรุปเบื้องต้นที่ออกมา บีเอ็มซีแอลยอมลดราคาจากวงเงินเดิม 85,991 ล้านบาทอีก 1,100 ล้านบาท เหลือ 84,891 ล้านบาท โดยลดราคาซื้อขบวนรถไฟฟ้า 63 ตู้ 21 ขบวน จากเดิมเสนอมา 85 ล้านบาท/ตู้ เหลือประมาณ 75 ล้านบาท/ตู้ ลดค่าเดินรถ 30 ปีลงอีก 166 ล้านบาท ซึ่งเมื่อลดราคา 2 ส่วนนี้ทำให้ต้นทุนการเงินและดอกเบี้ยลดลงโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังปรับลดอัตรากำไรจาก 12.25% เหลือ 12%

"ราคานี้ยังไม่เป็นที่พอใจ เท่าไหร่ แต่ทางบริษัทบอกว่าไม่สามารถลดได้อีกแล้ว จึงต้องหารือกันอีกครั้งก่อนเสนอข้อสรุปให้ ครม.พิจารณาต่อไป และทางกระทรวงคมนาคมเองก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องให้ลดราคาลงอีกเท่าไหร่ เพียงแต่ให้นโยบายว่าให้เจรจาต่อรองเพื่อประหยัดงบประมาณของรัฐบาลเท่านั้น เอง" แหล่งข่าวกล่าว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หากราคาสุดท้ายหลังการเจรจาออกมาแล้วยังไม่ได้ราคาที่เหมาะสมและน่าพอใจ จะให้ รฟม.นำมาดำเนินการเดินรถเอง ซึ่ง รฟม.ตอนนี้จะต้องหาจุดแข็งของตัวเองให้ได้ เพราะต่อไปจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ที่สำคัญต้องรองรับกับนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้นด้วย



ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (26 มกราคม   2555)

ร่วมแสดงความคิดเห็น