อสังหาฯเดือดร้อนหนักขาดแคลนผู้รับเหมา-แรงงานก่อสร้าง แนวโน้มส่อปัญหาบานปลายเริ่มมีสัญญาณลบส่งมอบบ้านล่าช้า 1 เดือนเต็ม ค่ายจัดสรร "ลลิลฯ-มั่นคงฯ" เปิดศึกชิงตัวขึ้นป้ายโฆษณาจ่ายค่างวดภายใน 7 วัน "พฤกษาฯ-วิรารัตน์ฯ-สัมมากร-ซื่อตรงกรุ๊ป" โด๊ปสุด ๆ ถ้าก่อสร้างเสร็จก่อนกำหนด บวกเงินเพิ่ม 15% ของค่างาน บิ๊กแบรนด์หนีตายหันใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปลดการใช้แรงงาน นายกอสังหา ริมทรัพย์ไทยชี้ยังมีความต้องการแรงงานอีกเพียบ 30-40%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ภาครัฐได้ลงทุนก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า ประกอบกับปัญหาอุทกภัยใหญ่ 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา และพืชผลการเกษตร ได้แก่ ยางพารา ปาล์ม มีราคาดี ทำให้ปัญหาแรงงานก่อสร้างในภาคที่อยู่อาศัยขาดแคลนหนัก และมีแนวโน้มจะเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นทุกที

โดยเฉพาะแรงงานที่เป็นคนไทยนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนแรงงานต่างด้าวก็ยังประสบปัญหามีจำนวนไม่เพียงพอ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องการขึ้นทะเบียน เงื่อนไขคือหากขึ้นทะเบียนในพื้นที่เขตไหน จะสามารถทำงานได้เฉพาะในเขตที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น โดยมีค่าใช้จ่ายขึ้นทะเบียนกับสำนักงานเขตประมาณรายละ 5,000 บาท

จ่ายค่างวด 7 วันล่อใจรับเหมา

ล่าสุด "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจพบบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ติดป้ายประกาศในย่านลำลูกกา ใกล้กับห้างเทสโก้ โลตัส รับสมัครผู้รับเหมาสร้างบ้าน (บริษัท หจก.) โดยมีข้อความเชิญชวนว่า "จ่ายเงินสดทุกสัปดาห์" สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องแรงงานกำลังกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นายสุรเชษฐ พริ้งเพริศ ผู้จัดการฝ่ายก่อสร้าง โครงการชวนชื่น โมดัสเซ็นโทร แจ้งวัฒนะ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทใช้ระบบจ่ายค่างวดงานให้กับผู้รับเหมาทุก 7 วัน ซึ่งถือว่าจ่ายค่างวดเร็วกว่าตลาด ปกติจะจ่ายค่างวดผู้รับเหมาประมาณ 15-30 วัน เหตุผลเพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องให้กับผู้รับเหมาที่เป็นพันธมิตรบริษัท รวมทั้งเพื่อผูกใจให้ผู้รับเหมาอยู่กับบริษัทนาน ๆ

ทั้งนี้ ไซต์ก่อสร้างโครงการชวนชื่น โมดัสฯ มีผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก 4 ราย มีคนงานรวมกว่า 100 คน แต่ปัจจุบันยังไม่เพียงพอ บริษัทต้องการผู้รับเหมาเพิ่มอย่างน้อย 2 ราย แรงงานประมาณ 60 คน เพื่อให้ทันกับปริมาณการก่อสร้างบ้านเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า หากยังไม่สามารถหาผู้รับเหมาเข้ามาเติม แนวโน้มอาจจะมีปัญหาการส่งมอบบ้านล่าช้าในอนาคตได้

สร้างเร็วบวกเงินเพิ่ม 10-15%

นายจุฑา พรหมชินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤกษาฯมีผู้รับเหมาเจ้าประจำและมีแรงงานที่ดูแลอยู่ประมาณ 3,000 ราย โดยทั้งหมดนี้บริษัทมีการจัดสวัสดิการดูแลในเรื่องที่พักอาศัย น้ำและไฟฟรีรวม 3 รายการ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดหลักสูตรเทรนนิ่งแรงงานฝีมืออยู่เป็นประจำ แต่สิ่งสำคัญคือการจ่ายเงินงวดตรงเวลา โดยบริษัทจ่ายทุก 15 วัน

รวมทั้งการเพิ่มแรงจูงใจกรณีโครงการที่บริษัทต้องการเร่งก่อสร้างเพื่อส่งมอบลูกค้าตามกำหนดนัด จะมีการบวกเงินเพิ่มให้ 10% ของมูลค่างาน

นายวิทยา วิรารัตน์ ประธาน บริษัท วิรารัตน์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการนีโอคลาสสิคโฮม กล่าวว่า ปัญหาแรงงานขาดแคลนที่ผ่านมา บริษัทไม่สามารถส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้ทันกำหนด ช้ากว่าที่ระบุในสัญญาประมาณ 30 วัน ช่วงที่ส่งมอบบ้านจึงมีสิทธิพิเศษให้ เช่น แถมแอร์ โซฟา ฯลฯ ส่วนการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมากำหนดทุก 15 วัน แต่นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมาซึ่งแรงงานหายากขึ้น ได้ใช้วิธีจูงใจโดยกรณีที่ผู้รับเหมาทำงานได้เสร็จก่อนกำหนดและเรียบร้อยดี ก็จะให้เงินจูงใจเพิ่มขึ้นอีก 10-15% ของมูลค่างาน

จี้รัฐปลดล็อกแรงงานต่างด้าว

นายรุ่งรัตน์ ลิ่มทองแท่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซื่อตรงกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง แม้ที่ผ่านมาภาครัฐเปิดโอกาสให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แต่ก็มีข้อจำกัดคือ 1)หากจดทะเบียนในเขตไหนจะทำงานได้เฉพาะในเขตนั้น 2)มีค่าใช้จ่ายจดทะเบียนหัวละประมาณ 5,000 บาท ถือว่าค่อนข้างสูง เพราะงานรับเหมาก่อสร้างเมื่อจบงานก็จะต้องเปลี่ยนสถานที่ก่อสร้าง ทำให้แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะผู้รับเหมาก่อสร้างมองว่ามีค่าใช้จ่ายสูง

สำหรับซื่อตรงกรุ๊ป ปัจจุบันมีงานก่อสร้างบ้าน 4-5 ไซต์ ต้องการแรงงานเพิ่ม 100-200 คน ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผลกระทบต้องส่งมอบบ้านบางเฟสล่าช้าไปตั้งแต่ 15-30 วัน บริษัทได้ใช้วิธีให้ของแถมกับลูกค้า เช่น ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ ฯลฯ

คาดขาดแรงงานอีก 30-40%

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาแรงงานหายากโดยเฉพาะแรงงานฝีมือที่ต้องอาศัยประสบการณ์ อาทิ ช่างฉาบ ช่างปูกระเบื้อง ฯลฯ เป็นเพราะเกิดการแย่งแรงงานไปทำงานก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้า หรือโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณการว่าขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯยังมีความต้องการแรงงานในภาคก่อสร้างที่อยู่อาศัยอีกประมาณ 30-40% จากที่หมุนเวียนอยู่ในระบบทั้งหมด

โดยยอมรับว่าบริษัทเริ่มมีปัญหาส่งมอบบ้านล่าช้ากว่ากำหนดบ้างแล้ว ปัจจุบันสัมมากรมีบ้านอยู่ระหว่างเปิดขาย 9 โครงการ มี 3 โครงการที่ยังต้องการแรงงานเพิ่มเฉลี่ยโครงการละ 30-40 คน และมีผลให้งานก่อสร้างบ้านนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาล่าช้าเฉลี่ยไม่เกิน 30 วัน กรณีนี้บริษัทยินดีจะจ่ายค่าปรับเป็นรายวันตามที่ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย ส่วนการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาจะเบิกจ่ายทุก 15 วัน

พึ่งระบบก่อสร้างสำเร็จรูป

นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า เท่าที่ทราบผู้ประกอบการทุกรายบ่นเรื่องปัญหาแรงงานขาดแคลน ทำให้หลายบริษัทต้องดิ้นรนนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเข้ามาใช้ อาทิ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แสนสิริ ปริญสิริ เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ สมาคมจะเรียกประชุมกรรมการเพื่อจัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบก่อสร้างทั้งการอบรมสัมมนาดูงาน

นายวีระ ศรีชนะชัยโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มองเห็นสัญญาณแรงงานขาดแคลน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปริญสิริได้ปรับมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปโดยการหล่อชิ้นส่วนต่าง ๆ จากโรงงานมาติดตั้งที่หน้างานมากขึ้น ได้แก่ ระบบบันไดสำเร็จรูป ระบบหล่อผนังสำเร็จรูปที่ไซต์ก่อสร้าง ระบบหลังคาสำเร็จรูปสมาร์ตทรัส ระบบรั้วสำเร็จรูป เพื่อช่วยลดการใช้แรงงานที่บริเวณหน้าไซต์งาน

สอดคล้องกับนายวิชาญ ศิริเวชวราวุธ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเพอร์เฟคนำระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูปมาใช้ในการก่อสร้างบ้านคิดเป็นสัดส่วน 60% ของทั้งหมด ได้แก่ โครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์ "เดอะวิลล่า" คอนโดฯ แบรนด์ "เมโทรพาร์ค" บ้านเดี่ยวแบรนด์ "เพอร์เฟคพาร์ค" และบ้านบางแบบในโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ "เพอร์เฟคเพลส" ส่วนโครงการเพอร์เฟคมาสเตอร์พีซที่เป็นแบรนด์บ้านระดับบน ราคา ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงใช้ระบบก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนอยู่

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทยังมีความต้องการผู้รับเหมาก่อสร้างได้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย เพื่อรองรับการขยายงาน

ที่มา :  วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น