AREA (ศูนย์ข้อมูลวิจัยและ ประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด) โดย "ดร.โสภณ พรโชคชัย" เผยแพร่รายงานผลสำรวจการเปิดโครงการใหม่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการเปิดใหม่ 23 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัย 22 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ อีก 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 3,087 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 11,711 ล้านบาท

รายละเอียดแบ่งเป็นบ้านเดี่ยว มีจำนวนหน่วยขายเปิดมากสุด 1,200 หน่วย (39%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ 754 หน่วย (24%) อันดับ 3 อาคารชุด 567 หน่วย (18%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

จะเห็นว่าในเดือนตุลาคม ภาพรวมอสังหาฯในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลชะลอตัวลง เนื่องจากประสบปัญหา น้ำท่วม จึงมีการเลื่อนการเปิดตัวโครงการออกไป หรือบางโครงการไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้ โดยเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 23 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 2 โครงการ หากไม่มีปัญหาน้ำท่วม การเปิดตัวอาจจะมากกว่านี้

ภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคาปานกลาง 3-5 ล้านบาท โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันได้ถูกน้ำท่วมแล้ว คงต้องชะลอ การขายออกไป

พิจารณาในแง่ระดับราคาขาย พบว่าการเปิดขายที่ระดับราคา 1 ล้านบาท มีจำนวน 332 หน่วย (11%) มีมูลค่าโครงการรวม 319 ล้านบาท (3%) ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 417 หน่วย (14%) มีมูลค่าโครงการ 628 ล้านบาท (5%)

ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 208 หน่วย (7%) มีมูลค่าโครงการ 566 ล้านบาท (5%) ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 1,855 หน่วย (60%) มีมูลค่าโครงการ 6,991 ล้านบาท (59%)

ส่วนที่มีระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 275 หน่วย (9%) และมีมูลค่าโครงการ 3,239 ล้านบาท (28%) ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้

หากพิจารณาภาพรวมที่อยู่อาศัยในรอบ 10 เดือนแรกของปี 2554 AREA ประเมินว่าตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2554 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 319 โครงการ (ลดลงประมาณ -12%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 71,727 หน่วย (ลดลงประมาณ -26%)

มีมูลค่ารวม 215,162 ล้านบาท (ลดลงประมาณ -13%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 2.999 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นประมาณ 17%) เมื่อเปรียบเทียบกับ 10 เดือนแรกปี 2553

โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุดคือ "อาคารชุด" จำนวน 32,888 หน่วย (46%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ 19,217 หน่วย (27%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 15,241 หน่วย (21%)




ที่มา  :  วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น