นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกปี 2554 นี้ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่เกิดขึ้นรวมกันถึง 68,640 หน่วย (ยูนิต) ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยแทบทั้งหมด หรือประมาณ 99.6% เป็นโครงการประเภทที่อยู่อาศัย และเป็นห้องชุดพักอาศัยถึง 47% มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นน้อยมาก รวมมูลค่าประมาณ 203,451 ล้านบาท ซึ่ง 98.9% ของทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัย เฉลี่ยแล้วที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่เปิดใหม่มีราคาขายประมาณ 2.944 ล้านบาทต่อยูนิต อย่างไรก็ตามแนวโน้มปี 2554 น่าจะปรับตัวลดลงจากปี 2553 ถึง 22% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง เพื่อเลี่ยงภาวะวิกฤติต่างๆที่เกิดขึ้น โดยที่อยู่อาศัยที่มีการพัฒนามากที่สุด คือห้องชุด มีจำนวนถึง 32,321 ยูนิต หรือเป็นประมาณ 47% ของอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 27% บ้านเดี่ยว 20% ส่วนที่เป็นบ้านแฝดและอื่นๆมีอีกประมาณ 5% ที่อยู่อาศัยทั้งหมดกลุ่มใหญ่ที่สุดมีราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 23,362 ยูนิต หรือ 34% ของทั้งตลาด และหากนับรวมที่อยู่อาศัยที่ขายในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทด้วย จะมีสัดส่วนถึง 48% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่นำเสนอขายในช่วง 9 เดือนแรกปี 2554
สำหรับการขายนั้น พบว่าห้องชุดที่เปิดมาทั้งหมดนั้น ขณะนี้มีผู้จองซื้อไปแล้วถึง 47% แสดงว่ามีความต้องการสูงมาก โดยเฉพาะห้องชุดที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และกลุ่มห้องชุดคุณภาพที่มีราคา 5-10 ล้านบาท และระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ก็มีผู้จองซื้อไปเกิน 50% แล้ว ทั้งที่เปิดขายมาไม่ถึง 9 เดือน ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ก็สามารถขายได้แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวอาจขายได้เพียง 21% ในช่วงแรก อย่างไรก็ตามบ้านเดี่ยวที่มีราคาแพงกว่าประเภทอื่นจะมีอัตราการขายที่ช้ากว่า แต่ก็ไม่ได้สะท้อนว่ามีปัญหาในการขายเกิดขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าทั้งปี 2554 น่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ประมาณ 91,184 ยูนิต รวมมูลค่าประมาณ 268,405 ล้านบาท ซึ่งแสดงว่าลดลงในแง่จำนวนยูนิตถึง 22% ส่วนในแง่มูลค่าลดลงไปประมาณ 11% กรณีนี้ถือเป็นการปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เกรงว่าจะมีการก่อสร้างจนมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา และหากพิจารณาประกอบกับปัญหาน้ำท่วม ก็จะพบว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2554 โดยรวมและในปี 2555 อาจจจะหดตัวลง
"แม้หลังน้ำลดผู้ประกอบการอาจจะมีการก่อสร้างโครงการเพิ่มเติม แต่การฟื้นฟูจากภาวะน้ำท่วม ไม่ใช่การก่อสร้างใหม่ และอาจเกิดความต้องการซื้อห้องชุดใจกลางเมืองเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็คงไม่ได้คึกคักมากนัก เพราะเศรษฐกิจในปี 2555 อาจชะลอตัวลงเนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากภาวะน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จึงมีโอกาสที่ความสามารถในการซื้อของผู้บริโภคจะลดลง ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวลงอย่างรุนแรงในปี 2555"นายโสภณ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554
TAG : |