นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศช่วงเริ่มต้นครึ่งปีหลังถือว่าคึกคัก แต่เมื่อประสบปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางเกือบ 2 เดือนมานี้ ส่งผลตลาดซบลงทันที
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับสาขาแฟรนไชส์ต่างจังหวัดของพีดีเฮ้าส์ ในขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อรายได้และเศรษฐกิจในอนาคต จึงทำให้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ออกไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เช่น พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง และอยุธยา เป็นต้น
"ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา พีดีเฮ้าส์มียอดขายจาก 23 สาขาทั่วประเทศเดือนละประมาณ 100 ล้านบาท แต่ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ปรากฏว่ายอดขายลดลงเหลือเดือนละ 70-80 ล้านบาทเท่านั้น หรือลดลงถึง 20-30% เมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ประเมินว่าเมื่อปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลง โอกาสที่ตลาดรับสร้างบ้านจะฟื้นกลับมาก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะจังหวัดที่โดนน้ำท่วมและบ้านเรือนเสียหายมาก เช่น อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ และพิจิตร เป็นต้น"
อย่างไรก็ตามแม้ยอดขายเดือนสิงหาคม-กันยายนจะลดลง แต่พีดีเฮ้าส์ยังมีจำนวนบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 160-170 หลังต่อเดือน และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกกว่า 50 หลัง ดังนั้นช่วงนี้จึงหันมาใช้เวลากับงานก่อสร้างบ้านเป็นหลัก เร่งรัดให้แล้วเสร็จส่งมอบลูกค้าได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าตามแผนการตลาดที่วางไว้ในปี 2554 โดยเฉพาะการขยายสาขาให้ครบ 28 สาขาตามที่กำหนดไว้ โดยปลายเดือนตุลาคมนี้เตรียมเปิดสาขานครสวรรค์อีกหนึ่งสาขา เพื่อรองรับความต้องการสร้างบ้านและการเติบโตของตลาดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้สาขานครสวรรค์จะสามารถให้บริการครอบคลุม 5 จังหวัดใกล้เคียง คือ กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี และสิงห์บุรี
สำหรับมาตรการทางภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะไม่ได้เอื้อต่อผู้บริโภคที่สร้างบ้านเองหรือใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นผลทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้ไม่ได้รับอานิสงค์เหมือนธุรกิจบ้านจัดสรร ทั้งที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) จึงอยากเห็นรัฐบาลออกมาตรการมากระตุ้นผู้บริโภคที่ใช้บริการรับสร้างบ้านให้ได้รับประโยชน์ด้วย เพราะมาตรการที่ออกมาครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการกระตุ้นหรือกระตุกธุรกิจรับสร้างบ้านกันแน่
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 23 กันยายน 2554
TAG : |