" รู้อย่างช่าง สร้างอย่างปราชญ์ "

 


Knowledges



Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
Banner Web eBuild
หน้าหลักข่าวก่อสร้าง     ข่าวอสังหาริมทรัพย์  
NEWS ความเสียหายที่จะเกิดจากผังเมืองใหม่ กทม. พื้นที่ไหนเสี่ยง พื้นที่ไหนรอด?
วันที่ลง : 14-May-2013   จำนวนคนอ่าน 744

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ระบุว่า ตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่เดือนพฤษภาคม 2556 จะสร้างความเสียหายมากมายแก่การพัฒนาเมือง กีดกันคนชั้นกลางและคนชั้นล่าง ไม่ให้อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ต้องออกไปจังหวัดปริมณฑล ในอนาคตลูกหลานอาจต้องออกไปซื้อบ้านไกลถึงฉะเชิงเทรา ทำให้เมืองขยายตัวอย่างไร้ทิศผิดทาง ไม่สิ้นสุด กลายเป็นอัมพาตไปหมด
ในพื้นที่ใจกลางเมือง สมมติมีที่ดินขนาด 1 ไร่ (400 ตารางวา หรือ 1,600 ตารางเมตร) ในย่านสุขุมวิท ถ้าจะสร้างอาคารในเขตที่อยู่อาศัย ย.9 ได้สูงสุด 7 เท่า หรือ 11,200 ตารางเมตร แต่ทั้งนี้ต้องมีพื้นที่ว่างเท่ากับ 4.5% ของพื้นที่ก่อสร้าง หรือประมาณ 504 ตารางเมตรหรือ 126 ตารางวา ดังนั้นที่ดินประมาณ 31.5% ของ 1 ไร่ต้องเว้นว่างไว้ และโดยที่ครึ่งหนึ่งของ 126 ตารางวานี้ ต้องเป็นพื้นที่ที่น้ำซึมผ่านได้ จะเอามาทำถนน ลานซักล้างไม่ได้ ดังนั้นพื้นที่ของอาคารจริงจึงยิ่งเล็กลงไปใหญ่
แต่สิ่งที่ควรจะเป็นก็คือ เราควรให้ใจกลางเมืองสามารถให้สร้างอาคารขนาดใหญ่ๆ สูงๆ ได้ และให้สามารถเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้าที่ให้คนใช้จ่ายเงินเอง (ไม่ได้เอาภาษีอากรของประชาชนในชนบทมาสร้าง) กลับไม่ให้สร้างอีกต่อไป  ต่อไปในซอยสุขุมวิทและซอยอื่นๆ จะไม่อาจสร้างอาคารสูงได้ เมืองก็ลามไปทั่ว เราต้องอยู่กันอย่างแออัดในตึกเตี้ยๆ แทนที่จะขึ้นสูงแล้วเว้นโดยรอบเขียวๆ
ในพื้นที่เขตต่อเมือง คือ ที่ดินบริเวณ ย.3 (พื้นที่ที่อยู่อาศัยหมายเลข 3) ที่เป็นสีเหลืองมีพื้นที่รวมถึง 427 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 5%  ของพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมด กทม. (เหลือง+ส้ม+น้ำตาล) การสร้างอาคารอยู่อาศัยรวมขนาดพื้นที่ 1,000-1,999  ตารางเมตร ต้องติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 30 เมตร ตามข้อกำหนดตามผังเมืองกทม. ที่ใช้อยู่ตั้งแต่ปี 2549  การสร้างที่อยู่อาศัยรวมที่ไม่ใช่อาคารใหญ่ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 1,999 ตารางเมตร ให้แปลงที่ดินติดซอยหรือถนนที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตรเท่านั้น โดยถ้าสร้างไม่เกิน 999 ตารางเมตร ติดถนนที่มีเขตทางกว้างเกิน 6.00 เมตรก็ได้
ในรายละเอียดจะพบว่าที่ดินในซอยต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณบริเวณ ย.3 ซึ่งเป็นซอยที่แยกไปจากถนนใหญ่หลายสาย เช่น ถนนสายไหมและซอยแยกทั้งด้านเหนือและด้านใต้ ถนนรามอินทราฝั่งเหนือ สำหรับซอยฝั่งเหนือที่เข้าไป เกิน 1,000 เมตร จากถนนรามอินทรา, ถนนพระราม 9 ช่วงแยกศรีนครินทร์, ถนนซอยอ่อนนุชบางช่วง ถนนศรีนครินทร์บางช่วง ถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันออก) ถนนหทัยราษฎร์ ถนนรัตนโกสินทร์สมโภชน์ (สุขาภิบาล 5)  ถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันตก) บางช่วง และถนนเลียบคลองภาษีเจริญ  ตามผังเมืองรวมของกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ที่จะประกาศในเดือนพฤษภาคม 2556 นี้  ทำให้ไม่อาจสร้างอาคารอยู่อาศัยรวมขนาดเล็กพื้นที่ไม่เกิน 1,000-1,999  ตารางเมตรได้เลย เพราะไม่มีซอยใดที่แยกจากถนนดังกล่าวมาแล้วมีความกว้างเกินกว่า  30 เมตร ประชาชนระดับกลาง และระดับล่างล่าง จึงไม่มีโอกาสที่อยู่อาศัยในชานเมืองกรุงเทพมหานครได้ จะต้องเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในตัวเมืองหรือใกล้สถานีรถไฟฟ้าซึ่งราคาขาย พื้นที่สูงกว่า 2 ถึง 3 เท่าตัว
ในเขตชานเมือง ได้แก่ บริเวณ ย.2 (พื้นที่ที่อยู่อาศัย หมายเลข 2) ตามผังเมืองที่จะประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคม 2556 ระบุว่า การจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยประเภทบ้านแถว (ทาวเฮ้าส์) ต้องตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่เขตทางไม่น้อยกว่า 12 เมตร และที่ดินแปลงละไม่น้อยกว่า 20 ตารางวา การกำหนดนี้กำหนดหยุมหยิมเกินกว่ากฎหมายจัดสรรที่ดินที่กำหนดให้มีขนาด ที่ดินแปลงะ 16 ตารางวาเท่านั้น แสดงว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือรายได้ปานกลางที่จะซื้อที่อยู่อาศัยใน ย่านชานเมือง จะต้องซื้อในราคาที่แพงขึ้น เพราะขนาดต้องใหญ่ขึ้น
แต่ที่สำคัญก็คือในซอยต่างๆ ในเขตชานเมืองนั้น เป็นซอยที่มีขนาดเล็กกว่า 12 เมตร การกำหนดให้ถนนกว้างเข้าไว้นี้ก็เท่ากับพยายามไม่ให้สร้างที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง เท่ากับเราสงวนกรุงเทพมหานครไว้สำหรับผู้มีรายได้สูง แล้วผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางก็ต้องระเห็จออกไปอยู่จังหวัดปริมณฑล ทำให้เมืองขยายออกไปไม่สิ้นสุด
ในความเป็นจริง ใจกลางเมืองควรให้สร้างสูง ถ้าสร้างอย่างเตี้ยๆ ในพื้นที่ 1 ไร่ (40 คูณ 40 เมตร) หากมีบ้านสลัม 15 หลังคาเรือนก็ถือว่าเป็นชุมชนแออัด แต่หากสร้างสูง เพิ่มความหนาแน่น แต่ลดความแออัด จะจุคนได้ถึง 50-100 ครัวเรือนก็ยังได้  เมืองจะได้ไม่ขยายออกไปรุกที่ชนบท  ในเขตชานเมือง ถ้าเราจะสร้างศูนย์ชุมชนเมือง ประชาชนจะได้ไม่เข้ามาซื้อของในเขตใจกลางเมืองโดยไม่จำเป็น เราควรให้สร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษเช่นกัน  แต่เรากลับไม่ให้สร้าง  การวางผังเมืองที่ผิดเพี้ยนความจริงอย่างนี้ จะสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงต่อกรุงเทพมหานครและประเทศชาติได้

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (14 พฤษภาคม 2556)



TAG :ความเสียหายที่จะเกิดจากผังเมืองใหม่ กทม. พื้นที่ไหนเสี่ยง พื้นที่ไหนรอด?,อีบิลด

ร่วมแสดงความคิดเห็น

ชื่อ
Comment
กรุณาป้อนข้อมูลตามที่ปรากฏ

ข้อความในส่วนแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็นข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ feedback@ebuild.co.thเพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้





สินค้าหมวดสถาปัตย์
สินค้าหมวดโครงสร้าง
แหล่งความรู้
eBuild Team
www..co.th
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Privacy Policy
Copyright 2009 Ebuild Co., Ltd. All Rights Reserved.