นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) เปิดเผยว่า ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านของกลุ่มสมาชิก THCA สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาได้จากกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยหรือตลาดบ้านสร้างเอง เพิ่มขึ้น ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่าผู้บริโภคพร้อมจะลงทุนหรือใช้เงินเพื่อสร้างบ้านในราคา ต่อหน่วยที่สูงขึ้น โดยราคาบ้านต่อหน่วยเฉลี่ย 3.5-5 ล้านบาทได้รับความนิยมสูงสุด
"แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านและกำลังซื้อ ของผู้บริโภคขยายตัวและเปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อม และรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน สมาคมวางเป้าหมายว่า ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเบียดแชร์ส่วนแบ่งตลาดบ้านสร้างเองประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเศษ จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท ใน 3 ปีหน้า หรือภายในปี 2558"
ทั้งนี้ จากการเก็บสถิติที่ผ่านมา เดิมผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่จะใช้เงินออม 80-90% แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีการขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์มากขึ้น ทำให้สัดส่วนการใช้เงินออมลดลงเหลือ 55-60%
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้านรายแรกของประเทศ เปิดเผยว่า ปริมาณลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ในช่วงไตรมาส 2/56 คึกคักใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56
ล่าสุดการจัดกิจกรรมนำทีมงาน 36 สาขาทั่วประเทศมาออกบูทในงานสถาปนิก"56 มีผลตอบรับน่าพอใจมาก มีผู้บริโภคที่ประสงค์จะสร้างบ้านในต่างจังหวัดมาลงทะเบียนคิดเป็น 68% ของจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด โดยต่างจังหวัดมีผู้สนใจมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ และจังหวัดอื่น ๆ ส่วนกรุงเทพฯ ผู้สนใจสร้างบ้านมากสุดอยู่โซนฝั่งตะวันออก ได้แก่ รามอินทรา มีนบุรี
เป็นต้น
นาย ปรีดา เฉลิมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นครราชสีมา รับสร้างบ้าน จำกัด สมาชิก THCA กล่าวว่า เปิดเผยว่า ตลาดรับสร้างบ้านในโคราชมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตลอด พื้นที่เติบโตอย่างน่าสนใจคือ อ.ปากช่องและสูงเนิน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและใกล้นิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้มี อ.เมือง, อ.พิมาย ซึ่งพีดีเฮ้าส์เปิดสาขารับสร้างบ้าน 3 แห่ง ตั้งเป้ายอดขายรวม 150 ล้านบาท

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (9 พฤษภาคม 2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น