แก้ปัญหารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ไม่จบ "ชัชชาติ" เร่งหาเงินกู้เสริมสภาพคล่อง หลังติดหล่มคลังเล่นแง่ไม่ยอมอนุมัติกู้เงิน 420 ล้าน สั่งให้แจงรายละเอียดยิบ แผนการดำเนินงานในปัจจุบันยันอนาคต ตัดแบ่งทรัพย์สินกับการรถไฟฯ รื้อแผนซื้อรถไฟ 7 ขบวนใหม่ ติงราคาสูงลิ่วตู้ละ 100 ล้านบาท บอร์ดแอร์พอร์ตลิงก์เปิดทางรายใหม่ยื่นข้อเสนอและราคาแข่ง "ซีเมนส์" ยื่นข้อเสนอใหม่เพิ่มเป็น 10 ขบวน รวม 30 ตู้ แต่ขอวงเงินเดิม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามการแก้ปัญหาของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ล่าสุด ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผู้รับจ้างบริหารโครงการ ซึ่งตามหลักแล้วบริษัทต้องได้รับเงินกู้อีก 420 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในปัจจุบันตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติไว้แต่จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อนถึงจะดำเนินการ ขอกู้เงินต่อไป "แนวทางการขอกู้เงินขณะนี้มี 2 แนวทาง คือ 1.ให้การรถไฟฯเป็นผู้กู้เงินจากกระทรวงการคลังก่อน แล้วบริษัทมากู้ต่อจากการรถไฟฯ และ 2.ให้บริษัทเป็นผู้กู้จากกระทรวงการคลังโดยตรง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้แนวทางใด" เนื่องจากจะต้องดูภาพรวมของบริษัทก่อนว่าจะมีแผนการชำระหนี้ จำนวนงวดที่ขอกู้ และแผนการดำเนินการในอนาคต ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องความคล่องตัวในการดำเนินการต่าง ๆ ขณะนี้ดีขึ้นมาก เพราะบริษัทมีอำนาจจัดซื้อจัดจ้างมากขึ้น และหากได้เงินกู้ก้อนนี้มาก็จะสะดวกขึ้นอีกมาก เพราะปัจจุบันได้เฉพาะเงินค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จากการรถไฟฯเท่า นั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ถึงกับทำให้บริษัทเลวร้ายอะไร เพราะปัจจุบันมีคนใช้บริการแน่นขึ้นประมาณ 50,000 คนต่อวัน อีกทั้ง ยังได้สั่งให้บริษัทไปทบทวนและพิจารณาให้รอบคอบเรื่องการจัดซื้อรถใหม่อีก จำนวน 7 ขบวน วงเงิน 5,200 ล้านบาท ที่บริษัทเสนอมายังถือว่ายังมีราคาแพงไป โดยเสนอราคามาตู้ละ 100 ล้านบาท ส่วนด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการขณะนี้ได้พยายามทำจุดเชื่อมต่อให้ ดีขึ้น ทั้งจุดเชื่อมต่อ รถเมล์ รถไฟ เช่น การทำทางข้ามเชื่อมต่อรถไฟที่มักกะสันตอนนี้ก็กำลังสร้างอยู่ จะแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้ นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เดิมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัท2,000 ล้านบาทมาให้กระทรวงการคลังเป็นคนดำเนินการพิจารณา เพื่อให้การรถไฟฯกู้แล้วบริษัทกู้ต่อ ซึ่งที่ผ่านมาอนุมัติไปแล้ว 140 ล้านบาท และใช้เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการต่าง ๆ หมดแล้ว ส่วนการกู้เพิ่มอีก 420 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนนั้น ่ทางกระทรวงการคลังยังไม่อนุมัติเพิ่มเติม ต้องการให้บริษัททำแผนงานของบริษัทให้ชัดเจนว่าจะมีรายได้มาจากไหน และการแบ่งหนี้สินและทรัพย์สินออกจากการรถไฟฯที่เป็นบริษัทแม่ด้วย ล่าสุดอยู่ระหว่างจ้างให้สถาบันศศินทร์ศึกษารายละเอียด เมื่อได้ผลการศึกษาแล้วจะนำเข้าหารือภายในบริษัทก่อนในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่กระทรวงคมนาคมต่อไป ส่วนการจัดซื้อรถไฟขบวน ใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งงบประมาณการจัดซื้อใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอแผนการจัดซื้อรถไฟไปจำนวน 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ ทั้งหมด 28 ตู้ วงเงิน 5,200 ล้านบาท โดยเป็นตัวเลขจากบริษัท ซีเมนส์ จำกัด เป็นผู้เสนอราคาเข้ามา "แต่ก็ได้ทราบจากสภาพัฒน์ว่ามีความ เห็นมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วว่าตัวเลขสูงเกินไป จึงได้ให้บริษัทกลับมาทบทวนแผนการจัดซื้อใหม่ ขณะนี้บริษัทได้กลับไปเจรจากับบริษัทซีเมนส์อีกครั้ง" ล่าสุดบริษัท ซีเมนส์ได้ยื่นขอเสนอใหม่มาให้พิจารณา คือ จะเพิ่มขบวนรถไฟฟ้าจาก 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวม 28 ตู้ เป็น 10 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ รวม 30 ตู้แทน แต่ราคาขายยังเท่าเดิมไม่เกิน 5,200 ล้านบาท โดยเป็นขบวนรถเหมือนเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องไปปรับระบบรับสัญญาณใหม่ จึงทำให้ราคาลดลง "แต่เรายัง ไม่ได้ตกลง ยังเปิดโอกาสให้ซัพพลายเออร์รายอื่นเข้ามายื่นข้อเสนอราคาแข่งขันด้วย เช่น ผู้ผลิตรถจากจีน เพื่อที่จะหาราคากลางและสเป็กได้ถูกที่สุด และต้องเป็นรถไฟที่สามารถวิ่งกับระบบพื้นฐานเดิมด้วย" นายจำรูญกล่าวว่า ทั้งนี้เรื่องการจัดซื้อรถไฟฟ้านั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี หลังจากที่ได้สั่งซื้อไป
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (26 เมษายน 2556)
TAG :คลังงัดคมนาคม,ดองงบ420ล.,กู้ซากแอร์พอร์ตลิงก์,อีบิลด |