กรมโยธาฯเด้งรับแผนลงทุนระบบราง 2 ล้านล้าน ทุ่มงบฯ 50 ล้านบาทจ้างที่ปรึกษาวางผังเมืองรัศมี 1-2 กม.แนวไฮสปีดเทรน นำร่อง "กรุงเทพฯ-เชียงใหม่" 12 สถานี เล็งรื้อใหม่ 11 จังหวัดภาคเหนือ นายเชตวัน อนันตสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างขอจัดสรรงบประมาณประจำปี 2557 เพื่อมาดำเนินการจัดทำผลการศึกษาวางผังเมืองรวมจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ ตามแผนการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยจะโฟกัสไปยังโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 4 สายทาง ประกอบด้วย สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-โคราช กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง เพื่อกำหนดการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดที่มีแนวรถไฟความเร็วสูงพาดผ่านให้การพัฒนาที่ดินสอดคล้องกับโครงการ "จะนำร่องก่อนสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่ตัดผ่านพื้นที่ 11 จังหวัดทางภาคเหนือ มีทั้งหมด 12 สถานี ล่าสุดรอความชัดเจนเรื่องตำแหน่งสถานีจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เพราะบางสถานีอาจจะมีการขยับตำแหน่งใหม่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมของเส้นทางและการก่อสร้าง เมื่อชัดเจนแล้วกรมจึงจะเริ่มศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อไปได้" นายเชตวันกล่าวอีกว่า ส่วนงบประมาณที่จะใช้จ้างที่ปรึกษา เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินอยู่ที่ 50 ล้านบาท แยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรก 20 ล้านบาท เป็นงบฯสำหรับการศึกษาวางผังเมือง พื้นที่โดยรอบสถานีในรัศมี 1-2 กิโลเมตร ทั้ง 12 สถานี เช่น การกำหนดลักษณะความสูงของอาคาร สิ่งก่อสร้าง จุดในการใช้ก่อสร้าง การจัดวางทางเข้า-ออก เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมของพื้นที่ ส่วนที่ 2 จำนวน 30 ล้านบาท เป็นค่าจ้างสำหรับศึกษาวางผังเมืองรวมเต็มทั้งจังหวัดที่มีที่ตั้งของสถานีรถไฟทั้ง 12 สถานี ตอนนี้ยังยึดตามสถานีเดิมของแนวรถไฟสายเหนือไปก่อน ได้แก่ กรุงเทพฯ (สถานีบางซื่อ) พระนครศรีอยุธยา บ้านภาชี (พระนครศรีอยุธยา) ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ (สถานีเด่นชัย) ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ทั้งนี้ ในส่วนการวางผังเมืองรวมเต็มทั้งจังหวัดนั้น ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัด โดยการวางแผนจัดทำผังเมืองในครั้งนี้จะรวมถึงวางผังเมืองเพื่อป้องกันน้ำท่วมรวมอยู่ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ปัจจุบันสนข.ได้กำหนดเส้นทางเลือกไว้ 5 แนวทาง คือ แนวที่ 1 ใช้แนวเขตทางรถไฟเดิมเป็นหลัก 676 กม. มี 12 สถานี ได้แก่ บางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ แนวที่ 2 ปรับแนวเส้นทางให้สั้นลง มี 11 สถานี คือ บางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย ศรีสัชนาลัย ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ระยะทาง 631 กม. แนวที่ 3 เป็นแนวใหม่ ตัดตรงจากพระนครศรีอยุธยาเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ โดยไม่เข้าลพบุรี จากนั้นแนวเส้นทางจะวิ่งตรงจากนครสวรรค์ไปสุโขทัย เข้าลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 607 กม. มี 10 สถานี มีบางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ แนวที่ 4 เป็นแนวตัดใหม่ อยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา แล้ววิ่งเข้าด้านตะวันออกของทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ จากนั้นวิ่งเข้าเมืองสุโขทัย สิ้นสุดที่เชียงใหม่ ระยะทาง 594 กม. มี 10 สถานี มีบางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และเชียงใหม่ และแนวที่ 5 นำแนวเส้นทางของที่ 1 และ 2 มารวมกัน ระยะทางประมาณ 661 กม. มี 12 สถานี ได้แก่ บางซื่อ ดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ศรีสัชนาลัย ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งแนวที่ 5 นี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (24 เมษายน 2556)
TAG :โยธาฯวางผังเมืองรัศมี 2กม. ,แนวไฮสปีดเทรนบูม,11จังหวัดเหนือ,อีบิลด |