ถึงจะตกขบวนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่ "คมนาคม" กุมเม็ดเงินลงทุนไว้มากสุด แต่ "กทพ.-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย" ยังคงเดินหน้าตัดทางด่วนสายใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง
โดยแทบทุกปีจะจัดสรรเงินมาศึกษาความเป็นไปได้โครงการและเตรียมวางแผนเปิดประมูลหาเอกชนมาลงทุนก่อสร้าง เพื่อให้โครงการในแผ่นกระดาษกลายเป็นจริงภายใน 10 ปี ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ตัดด่วนใหม่เพิ่ม 8 สาย
แผนต่อจากทางด่วนสายเชื่อมทางด่วนขั้นที่ 2 "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" ระยะทาง 16.7 กม.ที่กำลังก่อสร้าง ทาง "กทพ." มีแผนจะลงทุนสร้างทางด่วนสายอนาคตอีก 8 สายทาง ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มุ่งสู่พื้นที่ภูมิภาค ทั้งเหนือ ใต้ อีสาน ตะวันออก และตะวันตก
แถมขยายไปถึงพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในจังหวัดภูมิภาคที่มีปัญหารถติด เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น เท่านั้นยังไม่พอ
"กทพ." คิดไปไกลถึงขั้นสร้างทางด่วนเชื่อมประตูการค้า พร้อมจุดบริการเบ็ดเสร็จใน 4 ประตูการค้า ประกอบด้วย
"ด่านสะเดา หนองคาย-มุกดาหาร แม่สอด เชียงของ-แม่สาย" เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีกำลังจะมาถึงในปี 2558 นี้
จี้เวนคืนเชื่อมด่วนศรีรัช
"อัยยณัฐ ถินอภัย" ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า ขณะนี้ กทพ.มีทางด่วนที่ก่อสร้างอยู่ 1 โครงการ สายศรีรัช-วงแหวน
รอบนอกตะวันตก เป็นทางด่วนเชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพฯโซนตะวันตก แนวเส้นทางสร้างอยู่บนเส้นทางรถไฟสายใต้เดิม จากบริเวณสถานีหมอชิต 2 วิ่งไปตามทางรถไฟ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสะพานพระราม 6 ขนานไปกับถนนบรมราชชนนี จนถึงถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก
โครงการนี้มีเอกชน "บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)" เป็นผู้รับสัมปทานโครงการ 30 ปี วงเงินลงทุน 32,816 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 24,417 ล้านบาท กับวงเงินลงทุนการบริหารจัดการให้บริการและบำรุงรักษาตลอดอายุสัญญา 8,399 ล้านบาท ส่วนค่าเวนคืน 9,564 ล้านบาท รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบ
"ตามแผนจะใช้เวลาก่อสร้าง 48 เดือน เริ่มงานแล้วเมื่อ 15 ธันวาคม 2555
ที่ผ่านมา ผลงานคืบหน้า 2% ยังเหลือส่งมอบพื้นที่ช่วงหัวและท้าย ล่าสุดเวนคืนที่ดินแล้ว 70.60% จากแผนงาน 74.25% คาดว่าเดือนมิถุนายนนี้การรถไฟฯจะส่งมอบพื้นที่ได้ทั้งหมด"
เดินหน้าด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ
สำหรับทางด่วนสายอนาคต "อัยยณัฐ" บอกว่า แนวเส้นทางโครงการชัดเจนมี 6 สายทาง ทั้งอยู่ระหว่างศึกษาและจัดจ้างที่ปรึกษาในปีนี้ โดยโครงการที่ผลการศึกษาและออกแบบรายละเอียด
จะเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้คือ ทางด่วน
ขั้นที่ 3 สายเหนือ (ตอน N1, N2 และ N3) ระยะทาง 40.9 กม. มูลค่าโครงการ 101,367 ล้านบาท แยกเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 41,428 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 59,939 ล้านบาท
แนวเส้นทางจะเริ่มจากถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก แยกบางใหญ่ วิ่งไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ ผ่านแยกแคราย มาตามถนนงามวงศ์วาน จากนั้นแนวเส้นทางจะซ้อนทับไปกับเกาะกลางถนนเกษตร-
นวมินทร์ ตัดผ่านถนนเสรีไทย มาสิ้นสุดที่มอเตอร์เวย์บริเวณถนนศรีนครินทร์
"ถึงจะมีเสียงคัดค้านจาก ม.เกษตรฯ แต่ทางด่วนเส้นนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องสร้าง เพราะจะเชื่อมการเดินทางระหว่าง จ.นนทบุรีกับกรุงเทพฯโซนตะวันออก
แก้เรื่องการจราจรบนถนนเกษตร-นวมินทร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายกระทรวงคมนาคมจะมองว่ามีระบบอื่นที่เหมาะสมกว่าหรือไม่ เช่น โมโนเรล"
เพิ่มด่วนใหม่เชื่อมภาคใต้
โครงการต่อมา "สายดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก" ระยะทาง 8.8 กม. ซึ่ง "ผู้ว่าฯอัยยณัฐ" บอกว่าทางด่วนสายนี้
จะเป็นโครงข่ายใหม่มารองรับการเดินทางระหว่างพื้นที่ชั้นนอกและชั้นในของกรุงเทพฯ รองรับการเดินทางสู่ภาคใต้
โดยแนวเส้นทางจะเชื่อมต่อกับทางด่วนขั้นที่ 1 บริเวณต่างระดับดาวคะนอง แล้ววิ่งตรงไปตามแนวถนนพระรามที่ 2 สิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก ปัจจุบัน กทพ.อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการ มีกำหนดเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 16,950 ล้านบาท
ขณะที่ "สายศรีรัช-ดาวคะนอง" ระยะทาง 6.1 กม. อยู่ระหว่างทบทวนโครงการใหม่ หลังผลการศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
จะแล้วเสร็จเดือนสิงหาคมนี้
รูปแบบเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อทางด่วนขั้นที่ 2 บริเวณแยกต่างระดับบางโคล่ แล้วไปตามแนวทางด่วนขั้นที่ 1 จากนั้นข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะสร้างเป็นสะพานใหม่ตัวใหม่คู่ขนานไปกับสะพานพระราม 9 จากนั้นแนวเส้นทางจะซ้อนทับบนทางด่วนขั้นที่ 1 จนถึงดาวคะนอง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 12,162 ล้านบาท
ขยายบางนา-ชลบุรีถึงพัทยา
ถัดมา "สายบูรพาวิถี-พัทยา" ระยะทาง 57 กม. อยู่ระหว่างคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษา เป็นโครงข่ายเชื่อมไปยังภาคตะวันออก รองรับการขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบัง ออกแบบเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร
แนวเส้นทางจะต่อเชื่อมจากทางด่วนบูรพาวิถีหรือสายบางนา-ชลบุรี วิ่งไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านอำเภอเมืองชลบุรี ศรีราชา แหลมฉบัง บริเวณนี้จะมีทางขึ้น-ลงเชื่อมไปยังท่าเรือแหลมฉบังด้วย จากนั้นแนวเส้นทางจะมุ่งไปทางทิศใต้ ผ่านอำเภอบางละมุง จนมาบรรจบกับถนนพัทยาใต้
เติมโครงข่ายไปภาคอีสาน
เช่นเดียวกับ "สายอุดรรัถยา-อยุธยา" อยู่ระหว่างคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษา จะเป็นโครงข่ายเชื่อมการเดินทางไปยังภาคเหนือ
และภาคกลาง เป็นทางขนาด 6 ช่องจราจร แนวเส้นทางจะต่อเชื่อมกับทางด่วนอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) ที่ด่านบางปะอิน แล้วมุ่งหน้าไปยังด้านเหนือ มีทางแยก
ต่างระดับเข้าสู่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จากนั้นจะตัดผ่านไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามเส้นทางทางหลวงสาย 347 ไปสิ้นสุดที่อำเภอบางปะหัน ตรงจุดตัดถนนสาย
32 รวมระยะทาง 35 กม.
ส่วน "สายฉลองรัช-สระบุรี" จะเชื่อมการเดินทางออกสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทางขนาด 6 ช่องจราจร ต่อเชื่อมกับทางด่วนสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกตะวันออกที่ด่านจตุโชติ จากนั้นตรงไปจะตัดผ่านถนนรังสิต-นครนายก ผ่านอำเภอหนองแค วิหารแดง ทางหลวงสาย 33 ไปสิ้นสุดที่จังหวัดสระบุรี ระยะทางรวม
63 กม. จะเริ่มศึกษาปี 2557
สร้างแน่อุโมงค์กะทู้-ป่าตอง
ในส่วนของภาคใต้มี "สายกะทู้-ป่าตอง" จ.ภูเก็ต เป็นเส้นทางยกระดับจากแยกทางหลวงหมายเลข 4029 (สายกะทู้-ป่าตอง) ที่ กม.0+850 เจาะทะลุผ่านเขานาคเกิด สร้างเป็นอุโมงค์คู่ เมื่อออกจากอุโมงค์ด้านหาดป่าตองเป็นทางยกระดับ
เชื่อมต่อเข้ากับถนนผังเมืองรวมสาย ก ระยะทาง 3.08 กม. อยู่ระหว่างทบทวนโครงการ คาดว่าจะเสร็จปี 2557 ใช้เงินก่อสร้างประมาณ 6,000 ล้านบาท
และโครงการที่กำลังเริ่มตั้งไข่หรือวางแผนจะจ้างที่ปรึกษาในปี 2557 มี 2 สายทางคือ ทางด่วนในจังหวัดเชียงใหม่และขอนแก่น เพื่อจะช่วยแก้ปัญหารถติดในเมืองที่มีปัญหาหนักหนาสาหัส
ไม่แพ้กรุงเทพมหานคร
คิดได้ไกลขนาดนี้ส่วนจะไปให้ถึงสักแค่ไหนยังต้องลุ้นและดูกันต่อไป เพราะโครงการด่วนใหม่ 8 สายทางคงจะใช้เงินลงทุนไม่ใช่น้อย ๆ อย่างน้อยเกินหลัก 2 แสนล้านบาทแน่นอน
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (19 เมษายน  2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น