วินาทีนี้ ชื่อชั้น "เค.วอเตอร์ หรือบริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น" จากประเทศเกาหลีใต้ กำลังถูกกล่าวถึงบนกระดานประมูลน้ำ 300,000 ล้านบาทของรัฐบาลเพื่อไทยมากที่สุด
เมื่อจู่ ๆ ชื่อนี้ได้ผ่านการพิจารณาพีคิว (คุณสมบัติเบื้องต้น) แบบยกพวงทั้ง 9 โมดูล เบียดยักษ์รับเหมาและที่ปรึกษาชั้นแถวหน้าไทยอย่าง "กิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์" มี ช.การช่าง-ทีมกรุ๊ป เป็นโต้โผไปแบบพลิกโผ
แต่ก็ยังเป็นที่กังขา "เค.วอตอร์" กูรูน้ำสัญชาติแดนกิมจิที่ไม่เคยมีผลงานปรากฏในแผ่นดินไทยแลนด์เลย ทำไมถึงผ่านสายตาเหยี่ยวของคณะกรรมการคัดเลือกที่มี "ปลอดประสพ สุรัสวดี" รองนายกรัฐมนตรีอย่างง่ายดาย หากไม่มีนัยสำคัญหรือข้อผูกพันกันไว้ล่วงหน้า
พลิกดูประวัติ "เค.วอเตอร์" เป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้
ก่อตั้งเมื่อปี 2510 ปีนี้ย่างเข้าสู่ปีที่ 46 มีพนักงานกว่า 4,000 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อปีหลักหมื่นล้านบาท
แต่เพิ่งขยับฐานเข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบ "องค์กรบริหารจัดการน้ำ" ได้ประมาณ 2 ปีเศษ ยึดพื้นที่ชั้น 26 ตึกไซเบอร์เวิลด์เป็นที่ตั้งสำนักงาน รองรับทีมวิศวกรขนมาจากเกาหลีใต้กว่า 200 คน
มี "มณฑล ภานุโภคิน" หนุ่มหาดใหญ่วัย 40 ปีที่ยึดอาชีพค้าขายทั่วไปมานั่งเป็นเอ็มดี
ขณะที่อีกกระแสสะพัดหนาหูว่า...ออฟฟิศของ เค.วอเตอร์นั้น ได้กลายเป็นที่พำนักของข้าราชการวัยเกษียณของกรมชลประทานที่เชี่ยวชาญเรื่องน้ำนั่งเป็นที่ปรึกษา และช่วยปูทางนำพาชื่อ "เค.วอเตอร์" ติดโผประมูลแบบง่ายดาย
นอกเหนือจากความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ติดผันมาจากครั้งที่ "นายกฯหญิง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ไปเยือนประเทศเกาหลีใต้เมื่อหลายเดือนก่อน กลายเป็นแรงผลักช่วยให้ "เค.วอเตอร์" เข้าป้ายได้เร็วขึ้นอีกแรง
"เค.วอเตอร์ ของเรารับงานสร้างเขื่อนและบริหารจัดการน้ำมาหลายประเทศ แบบ G to G หรือรัฐต่อรัฐ ไม่ว่าที่ สปป.ลาว, เมียนมาร์, ปากีสถาน, บาหลี, จีน, เวียดนาม, อินโดนีเซีย แต่ที่ประเทศไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เรายื่นประมูล และไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด" นายมณฑล กรรมการผู้จัดการ เค.วอเตอร์ ตอบข้อสงสัย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่เสียงระฆังประมูลน้ำ 300,000 ล้านบาทจะเริ่ม ว่ากันว่า "เค.วอเตอร์" พยายามเดินสายหางานที่ "กรมชลประทาน" ตั้งแต่ก่อนปี 2554 หวังสร้างผลงานในไทย จากเดิมที่ไม่มีตัวตนและผลงานที่โดดเด่นอะไรเลย
โดยเสนอตัวทำโครงการร่วมกันกับกรมชลประทาน ในโครงการศึกษาการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จนเกือบจะมีการเซ็นลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน แต่เกิดน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 บวกกับรัฐบาลเพื่อไทยประกาศเปิดประมูลแผนบริการจัดการน้ำเสียก่อน จึงทำให้โปรเจ็กต์นี้ชะงักไปจนถึงทุกวันนี้
"ตอนนั้น เค.วอเตอร์ เข้ามาเสนองานวิจัยการบริหารจัดการแม่น้ำเจ้าพระยาให้ เหมือนที่เขาทำสำเร็จมาแล้วในเกาหลีใต้ในการปรับปรุงแม่น้ำ 4 สายที่มีการสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงอยากจะนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยเพื่อขยายตลาด แต่เกิดน้ำท่วมพอดีจึงยังไม่ได้ทำอะไร และช่วงน้ำท่วมใหญ่เขาก็มาช่วยเหลือให้คำแนะนำ" แหล่งข่าวจากกรมชลประทานกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
ถึง "MOU" ครั้งนั้นจะยังไม่ถึงฝั่ง แต่จังหวะก้าวของ "เค.วอเตอร์" กำลังเข้าที่พอดีกับแผนงานประมูลน้ำของรัฐบาลเพื่อไทยที่กำลังเข็นให้เป็นรูปธรรมใน 5 ปีนับจากนี้
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (17 เมษายน  2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น