นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า งานแรก ๆ หลังจากรับตำแหน่งอธิบดีคือ ได้สั่งให้ทบทวนโครงการประมูลขุดลอกแม่น้ำและคลองขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแผนงานต่อเนื่อง จากเดิมวางแผนโครงการเป็นสัญญางานประมูลขนาดใหญ่ แนวทางที่จะปรับใหม่คือมอบหมายให้ทบทวนซอยสัญญาประมูลรับเหมาก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลง เพื่อจะได้กระจายงานให้กับ

ผู้รับเหมาเข้าแข่งขันประมูลได้มากขึ้น ถือว่าเป็นการแบ่งงานกันทำ ซึ่งจะมีผลทำให้งานก่อสร้างเสร็จได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้มีผลงานเป็นรูปธรรมและทันรองรับฤดูน้ำหลากสิ้นปีนี้

สำหรับรายละเอียดแผนโครงการขุดลอกแม่น้ำและคลองขนาดใหญ่ของกรมเจ้าท่า มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำสายหลักครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบด้วยแม่น้ำยม-ปิง-ป่าสัก-บางปะกง-วัง-น่าน-มูล-ชี-คลองทวีวัฒนา พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งตะวันออกของแม่

น้ำเจ้าพระยาโดยแนวทางที่กรมเจ้าท่าปรับแผนใหม่ จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 10 โครงการ วงเงินก่อสร้างรวมกว่า 3,496 ล้านบาท ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริการจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เรียบร้อยแล้ว ภายใต้กรอบวงเงินลงทุนก้อนใหญ่ 350,000 ล้านบาท และอาจจะมีการเปิดประมูลด้วยวิธีพิเศษ เฉลี่ยมูลค่างานประมาณ 10-60 ล้านบาท/โครงการ รวมทั้งกำหนดวันก่อสร้างใหม่ให้เสร็จเร็วขึ้นภายใน 90-120 วัน

"ตามแผนงานเดิม สัญญางานประมูลจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ผมเกรงว่าเมื่อเป็นงานใหญ่และใช้ผู้รับเหมารายเดียวอาจจะทำให้งานเสร็จไม่ทันตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เสร็จ และพร้อมรับมือน้ำหลากช่วงปลายปีนี้"

นายจำรูญกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแผนงานทั้งหมดจะนำเสนอนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการ กบอ. จะอนุมัติตามที่กรมเสนอไปหรือไม่ และคาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลโครงการได้เร็ว ๆ นี้ เพื่อจะได้เริ่มดำเนินการได้ทันทีและทันกำหนดเวลาที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้

"โครงการก่อนหน้านี้มีบางส่วนที่ทยอยประกาศเปิดประมูลไปแล้ว ก็คงจะต้องให้หยุดไว้ก่อนเพื่อนำมาปรับใหม่ เพื่อให้งานเล็กลงจะได้เสร็จเร็วขึ้น จากนั้นถึงจะเริ่มเปิดประมูลต่อไป" นายจำรูญกล่าว



ที่มา  :  20 ก.ค. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น