ดีเดย์ 26 ส.ค. กทพ.เตรียมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนพื้นที่เขตจอมทอง บางขุนเทียน และบางบอน วางตอม่อตัดทางด่วนสายใหม่ "ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" รวมระยะทาง 8.4 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เสริมโครงข่ายการเดินทางสู่ภาคใต้ เชื่อมพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกกรุงเทพฯ หลังทุ่ม 30 ล้านบาทจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการ เผยแนวบนถนนพระรามที่ 2 มีความเป็นไปได้มากที่สุด เหตุเวนคืนน้อยและปริมาณจราจรหนาแน่น

แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในวันที่ 26 สิงหาคม 2555 นี้ กทพ.จะจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการทางด่วนใหม่สายดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 8.4 กิโลเมตร

ซึ่ง กทพ.ได้จ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท เอพซิลอน จำกัด บริษัท ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด วงเงิน 30 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 15 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2555-วันที่ 14 สิงหาคม 2556 จากนั้นจะออกแบบรายละเอียดและเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 2556-2557 ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3-4 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2561

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับแนวเส้นทางจะพาดผ่านพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพฯ ประกอบด้วย เขตจอมทอง บางขุนเทียน และเขตบางบอน ซึ่งจะเป็นการเสริมโครงข่ายการเดินทางไปยังภาคใต้และเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกของกรุงเทพฯ มีรูปแบบก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ใช้เงินลงทุนทั้งโครงการประมาณ 16,950 ล้านบาท โดยทางบริษัทที่ปรึกษาเสนอแนวทางเลือก 4 สายทาง (ดูแผนที่) แต่จะมีจุดเริ่มต้นเดียวกันคือ ต่อเชื่อมกับทางด่วน

ขั้นที่ 1 บริเวณดาวคะนอง ซึ่งแนวทางเลือกที่ 1 สร้างบนถนนพระรามที่ 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) สิ้นสุดที่แยกต่างระดับเชื่อมกับวงแหวนรอบนอกตะวันตก รวมระยะทาง 8.4 กิโลเมตร

แนวทางเลือกที่ 2 จากจุดต่อเชื่อมบริเวณดาวคะนองจะเป็นถนนตัดใหม่ จากนั้นจะสร้างบนถนนเอกชัยแล้วไปสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบรอบนอกตะวันตก รวมระยะทาง 8.9 กิโลเมตร แนวทางเลือกที่ 3 จากจุดเชื่อมต่อดาวคะนองจะสร้างบนถนนพระรามที่ 2 จากนั้นเป็นเส้นทางตัดใหม่เบี่ยงไปทางถนนเอกชัย และสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก รวมระยะทาง 8.6 กิโลเมตร

และแนวทางเลือกที่ 4 จะเชื่อมต่อกับทางด่วนขั้นที่ 1 เยื้องมาทางพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ จากนั้นเป็นเส้นทางตัดใหม่พาดผ่านโรงพยาบาลบางแค แล้วจะสร้างอยู่บนถนนพระรามที่ 2 จนสิ้นสุดที่แยกต่างระดับเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก รวมระยะทาง 9.2 กิโลเมตร

"ทั้ง 4 แนวทางเลือก เป็นเส้นทางที่บริษัทที่ปรึกษาเสนอขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบ ดูว่าเส้นไหนจะมีความเหมาะสมและคุ้มทุนมากกว่ากัน แต่ดูแล้วแนวที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือแนวทางเลือกที่ 1 ที่สร้างเชื่อมจากดาวคะนองตรงมาบนถนนพระรามที่ 2 มาสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก เนื่องจากจะเป็นระยะทางที่สั้น เชื่อมต่อกับโครงข่ายและถนนสำคัญได้ตรงเป้าหมายที่สุด ทั้งปริมาณการจราจรและจุดคุ้มทุน สำคัญที่สุดคือการเวนคืนจะมีน้อยมากเมื่อเทียบกับแนวอื่น เพราะจะสร้างบนเกาะกลางถนนพระรามที่ 2 แต่มีเวนคืนเล็กน้อยตรงจุดเชื่อมต่อต้นทางและปลายทางที่จะเป็นจุดขึ้น-ลง"

สำหรับโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่ กทพ.จัดเป็นแผนเร่งด่วน ระยะทางรวม 68.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 129,041 ล้านบาท ต้องเร่งก่อสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลภายใน 5 ปีนี้ นอกจากเส้นนี้มีทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 17 กิโลเมตร เงินลงทุน 27,000 ล้านบาท และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 N2 และ N3 ระยะทาง 43.2 กิโลเมตร เงินลงทุน 85,069 ล้านบาท



ที่มา  :  23 ส.ค. 2555  ประชาชาติธุรกิจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น