รายงานข่าวจากบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 เท่ากับ 1,056 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 4.59 บาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 731 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 3.18 บาทในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2554 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมรายงานการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศมีปริมาณ 7.2 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการปูนซีเมนต์ ได้แก่ การชะลอตัวการก่อสร้างโครงการของรัฐบาลในช่วงก่อนเลือกตั้ง และการชะลอตัวของการลงทุนในภาคเอกชน คาดว่าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปและมีการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่เป็นที่เรียบร้อยโครงการต่างๆจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผลของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและนโยบายการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดมากขึ้นยังคงส่งผลให้ความต้องการในการใช้ปูนซีเมนต์เพื่อตลาดการสร้างที่อยู่อาศัยมีปริมาณลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว รายได้จากการขายสุทธิรวมในไตรมาส 2 ปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 5,784 ล้านบาท จาก 5,210 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2553 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 11.0 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายในประเทศและต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น จากผลดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.4 ในไตรมาส 2 ปี 2554 เมื่อเทียบกับร้อยละ 17.1 ในไตรมาส 2 ปี 2553 และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 1,056 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 2 จาก 731 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2553 กำไรสุทธิต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มเป็น 4.59 บาทเมื่อเทียบกับ 3.18 บาทในปี 2553
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 7.00 บาท เพิ่มขึ้นจากอัตราหุ้นละ 6 บาทซึ่งจ่ายไปในระหว่างกาลปี 2553 บริษัทฯกำหนดวันที่จ่ายปันผลเป็นวันที่ 2 กันยายน 2554 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) เป็นวันที่ 19 สิงหาคม 2554 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลเป็น วันที่ 22 สิงหาคม 2554 สำหรับแนวโน้มในปี 2554 บริษัทฯ คาดว่าตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศจะมีอัตราการเจริญเติบโตประมาณร้อยละ 4 จากปีที่แล้ว ทั้งนี้สืบเนื่องจากการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ของรัฐบาล และรายได้ของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่า ยังมีปัจจัยเสี่ยงของสภาวะเศรษฐกิจในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนด้านพลังงานและอัตราดอกเบี้ย
ปูนซีเมนต์นครหลวงยังคงลงทุนในโครงการที่มีโอกาสเจริญเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตปูนสำเร็จรูปมอร์ตาร์ (INSEE Mortar) และการเพิ่มสายการผลิตของโรงงานผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้จริง คอนวูด ทั้งสองโครงการนี้ได้ดำเนินการตามแผนและจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2555
บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการหาโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชาและพม่า เพื่อสนับสนุนและขยายส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น
เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯสืบเนื่องวิสัยทัศน์ "โลกน่าอยู่คู่หัวใจสีเขียว" (Green Heart) สานต่อโครงการ "โรงเรียนสีเขียว" (Green School) ด้วยการสร้างและซ่อมบำรุงโรงเรียนจำนวน 9 โรงเรียนในปีนี้ ส่วนโครงการล่าสุด "ถังน้ำชุมชนเพื่อโลกสีเขียว" (Green Water Tank) เริ่มดำเนินการสร้างถังน้ำขนาดใหญ่ให้กับชุมชนที่มีความต้องการ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างถังน้ำขนาดความจุ 20,000 ลบ.ม. ทั้งสิ้นจำนวน 84 ถัง/ปีเป็นเวลาต่อเนื่อง 3 ปี
นอกจากนั้น บริษัทได้จัดพิมพ์ "รายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน" เป็นภาษาไทยและอังกฤษ นำเสนอทั้งในรูปแบบของหนังสือและบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ (www.siamcitycement.com)
ที่มา : วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ประชาชาติธุรกิจ
TAG : |