แสนสิริตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว “สราญสิริ” รองรับความต้องการบ้านในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท จัดแคมเปญ “Saran Series” (สราญซีรีย์) เริ่มต้นเพียง 3.69 ล้านบาท ทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ สราญสิริ ท่าข้าม – พระราม 2, สราญสิริ ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ และสราญสิริ พหลโยธิน – สายไหม
          นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนบราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการตลาดโครงการแนวราบในช่วงครึ่งหลังปี 2554 นี้ บริษัทจะรุกขยายตลาดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทได้จัดกิจกรรมทางการตลาดโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “สราญสิริ” ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมี 3 ทำเลคือ โครงการสราญสิริ ท่าข้าม – พระราม2 ซึ่งขณะนี้มียอดขายไปแล้วถึง 85% นับเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมากในทำเลย่านพระราม 2 และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปลายปี 54 นี้อย่างแน่นอน ส่วนโครงการสราญสิริ ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ ขณะนี้ขายไปแล้วกว่า 50% ยูนิต อยู่ระหว่างการพัฒนาในเฟสที่ 3 โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 จะมีการจัดกิจกรรมเปิดตัวแบบบ้านใหม่อีกครั้ง และโครงการสราญสิริ พหลโยธิน – สายไหม โครงการใหม่ล่าสุดที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 40% โดยในวันที่ 9 – 10 ก.ค.นี้ ที่สราญสิริทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะมีการจัดงานภายใต้แคมเปญ “Saran Series” ไฮไลท์บ้านเดี่ยวเต็มรูปแบบในราคาเริ่มต้นเพียง 3.69 ล้านบาท
          “สำหรับแคมเปญการตลาดที่จัดขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งจะช่วยตอกย้ำการรับรู้ในแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยว “สราญสิริ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มบ้านที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดีตลอดมา นอกจากนี้จะเป็นกิจกรรมทางการตลาดที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับกลุ่มบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะบ้านระดับราคากลาง ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หากพิจารณาตัวเลขยอดขาย (Pre-Sale) เฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มียอดขายไปแล้วกว่า 1,056 ยูนิต มูลค่าการขายรวมประมาณ 6,333 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ประมาณ 11,200 ล้านบาท นับเป็นอัตราการเติบโตที่ดีและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายโครงการบ้านเดี่ยวที่ดีในลักษณะนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้กลุ่มบริษัทแสนสิริสามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างยอดขายรวมที่ตั้งไว้ต่อไป” นายเมธา กล่าว

ที่มา :  วันที่ 7 กรกฎาคม 2554 ThaiPR.NET

ร่วมแสดงความคิดเห็น