แอร์พอร์ตลิงก์เตรียมปลดระวาง "ซีเมนส์" เจรจาผู้ผลิตจีนและสเปนซื้อรถไฟฟ้าขบวนใหม่ 7 ขบวน มูลค่า 5,200 ล้านบาท หลังพบราคาถูกกว่าเพียบ เล็งรื้อระบบอาณัติสัญญาณยกแผง จีบ "บอมบาดิเอร์" เป็นผู้ติดตั้ง เพราะเปิดกว้างปลดล็อกรถไฟฟ้าวิ่งได้ทุกยี่ห้อ
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในเร็ว ๆ นี้จะนำเรื่องการจัดซื้อรถไฟฟ้าขบวนใหม่จำนวน 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้รวม 28 ตู้ เสนอให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป
"บริษัทจะเร่งสรุป โดยเร็วว่าจะซื้อยี่ห้อไหน หลังท่านรัฐมนตรีชัชชาติติงราคาที่บริษัทซีเมนส์เจ้าเดิมผู้ผลิตจากประเทศ เยอรมนีเสนอมา 5,200 ล้านบาท โดยมองว่ายังสูงเกินไป และสั่งให้เช็กราคาตลาดว่าอยู่ที่เท่าไหร่ เราจะเสนอซัพพลายเออร์จากประเทศอื่นเปรียบเทียบด้วย อาทิ บริษัท CNR ผู้ผลิตจากประเทศจีน และบริษัท CAF จากประเทศสเปน รวมถึงระบบอาณัติสัญญาณจากบริษัทบอมบาดิเอร์
ผู้ผลิตจากประเทศแคนาดา เพราะถ้าหากซีเมนส์ไม่ยอมลดราคาจะต้องแก้ปัญหานำรถยี่ห้ออื่นมาวิ่งในระบบได้ด้วย"
นาย จำรูญกล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาจะมี 2 วิธีคือ 1.ซื้อรถไปก่อน ยี่ห้อไหนก็ได้ จากนั้นค่อยมาติดกล่องระบบโทรคมนาคมไว้กับตัวรถไฟฟ้า เพื่อให้ขับเคลื่อนระบบร่วมกับระบบเดิมของซีเมนส์ได้ กับ 2.เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ทั้งหมด เหมือนกับที่รถไฟฟ้าบีทีเอสดำเนินการมาแล้ว โดยเปลี่ยนจากระบบของซีเมนส์มาใช้ระบบบอมบาดิเอร์แทน เนื่องจากสามารถนำระบบรถจากที่ไหนมาวิ่งก็ได้ ปัจจุบันบีทีเอสนำขบวนรถไฟฟ้าผลิตจากประเทศจีนมาวิ่งให้บริการอยู่ ซึ่งแนวทางนี้จะต้องลงทุนเพิ่ม
"ล่าสุดซีเมนส์ยอมลดราคาลงจาก 5,200 ล้านบาทเหลือ 4,800-4,900 ล้านบาท โดยลดจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผู้ผลิตจีนและสเปนก็เสนอราคาต่ำกว่าซีเมนส์อีกพอสมควร แต่ละรายมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นระบบออโตเมติก โดยเฉพาะจีนจะนำส่งขบวนแรกใน 18 เดือนได้ ส่วนซีเมนส์เสนอใช้รถแบบบอดี้เก่า แต่จะเปลี่ยนประตูใหม่ ทั้งนี้ อยู่ที่การพิจารณาของกระทรวงคมนาคมจะเลือกรายไหน"
นายจำรูญกล่าวอีก ว่า สำหรับรถไฟฟ้า 9 ขบวนที่ให้บริการปัจจุบันจะครบรอบซ่อมใหญ่หลังวิ่งครบ 1 ล้านกิโลเมตร (Overhaul) ในเดือนกรกฎาคมนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการของผู้โดยสารที่เพิ่มจำนวนขึ้น ล่าสุด 50,000 เที่ยวคน/วัน จึงจะทยอยนำมาซ่อมทีละ 1 ขบวน ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และจะต้องบริหารเวลาให้ดีด้วย
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในเร็ว ๆ นี้จะนำเรื่องการจัดซื้อรถไฟฟ้าขบวนใหม่จำนวน 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้รวม 28 ตู้ เสนอให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป
"บริษัทจะเร่งสรุป โดยเร็วว่าจะซื้อยี่ห้อไหน หลังท่านรัฐมนตรีชัชชาติติงราคาที่บริษัทซีเมนส์เจ้าเดิมผู้ผลิตจากประเทศ เยอรมนีเสนอมา 5,200 ล้านบาท โดยมองว่ายังสูงเกินไป และสั่งให้เช็กราคาตลาดว่าอยู่ที่เท่าไหร่ เราจะเสนอซัพพลายเออร์จากประเทศอื่นเปรียบเทียบด้วย อาทิ บริษัท CNR ผู้ผลิตจากประเทศจีน และบริษัท CAF จากประเทศสเปน รวมถึงระบบอาณัติสัญญาณจากบริษัทบอมบาดิเอร์
ผู้ผลิตจากประเทศแคนาดา เพราะถ้าหากซีเมนส์ไม่ยอมลดราคาจะต้องแก้ปัญหานำรถยี่ห้ออื่นมาวิ่งในระบบได้ด้วย"
นาย จำรูญกล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาจะมี 2 วิธีคือ 1.ซื้อรถไปก่อน ยี่ห้อไหนก็ได้ จากนั้นค่อยมาติดกล่องระบบโทรคมนาคมไว้กับตัวรถไฟฟ้า เพื่อให้ขับเคลื่อนระบบร่วมกับระบบเดิมของซีเมนส์ได้ กับ 2.เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ทั้งหมด เหมือนกับที่รถไฟฟ้าบีทีเอสดำเนินการมาแล้ว โดยเปลี่ยนจากระบบของซีเมนส์มาใช้ระบบบอมบาดิเอร์แทน เนื่องจากสามารถนำระบบรถจากที่ไหนมาวิ่งก็ได้ ปัจจุบันบีทีเอสนำขบวนรถไฟฟ้าผลิตจากประเทศจีนมาวิ่งให้บริการอยู่ ซึ่งแนวทางนี้จะต้องลงทุนเพิ่ม
"ล่าสุดซีเมนส์ยอมลดราคาลงจาก 5,200 ล้านบาทเหลือ 4,800-4,900 ล้านบาท โดยลดจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผู้ผลิตจีนและสเปนก็เสนอราคาต่ำกว่าซีเมนส์อีกพอสมควร แต่ละรายมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นระบบออโตเมติก โดยเฉพาะจีนจะนำส่งขบวนแรกใน 18 เดือนได้ ส่วนซีเมนส์เสนอใช้รถแบบบอดี้เก่า แต่จะเปลี่ยนประตูใหม่ ทั้งนี้ อยู่ที่การพิจารณาของกระทรวงคมนาคมจะเลือกรายไหน"
นายจำรูญกล่าวอีก ว่า สำหรับรถไฟฟ้า 9 ขบวนที่ให้บริการปัจจุบันจะครบรอบซ่อมใหญ่หลังวิ่งครบ 1 ล้านกิโลเมตร (Overhaul) ในเดือนกรกฎาคมนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการของผู้โดยสารที่เพิ่มจำนวนขึ้น ล่าสุด 50,000 เที่ยวคน/วัน จึงจะทยอยนำมาซ่อมทีละ 1 ขบวน ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และจะต้องบริหารเวลาให้ดีด้วย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (18 มิถุนายน 2556)
TAG :แพงเว่อร์,คมนาคม,รื้อ,"ซีเมนส์",จีน-ยุโรป,เสียบแอร์พอร์ตลิงก์,อีบิลด |