พี่ใหญ่ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" ไล่ล่าความสำเร็จตลาดคอนโดฯ เปิดตัวโครงการหรู "เดอะแบงค็อก" สาทร ติดบีทีเอสสุรศักดิ์ สูง 50 ชั้น มูลค่าโครงการ 7 พันล้าน ราคาขายกว่า 1.7-2 แสนบาท มั่นใจตลาดระดับไฮเอนด์ยังไม่มีฟองสบู่-โอเวอร์ซัพพลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลใจกลางเมือง ล่าสุดบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พี่ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้เปิดตัวคอนโดฯใหม่ภายใต้แบรนด์ "เดอะแบงค็อก" ทำเลสาทรติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าขายหลายพันล้านบาท พร้อมกับเปิดตัวหนังโฆษณาสร้างการจดจำ

ทั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของแลนด์ฯ ที่จะกลับมาทวงศักดิ์ศรีผู้นำตลาดอสังหาฯ หลังจากปล่อยให้คู่แข่งรุกตลาดคอนโดฯระดับไฮเอนด์ไปก่อนหน้านี้ โดยมีประเด็นน่าสนใจคือ ถ้าเปิดตัวในปี"54 จะมีราคาขายเริ่มต้นตารางเมตรละ 1 แสนบาท แต่เนื่องจากต้องรอจังหวะทำให้เปิดตัวช้า 1-2 ปี ราคาขายเริ่มต้นจึงขยับเป็น 1.7 แสนบาท

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทได้เข้ามารุกตลาดคอนโดฯไฮเอนด์ โดยเปิดตัวโครงการเดอะแบงค็อก สาทร คอนโดฯติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสุรศักดิ์ ที่มีราคาขายต่อตารางเมตรสูงที่สุดตั้งแต่แลนด์ฯเคยพัฒนาโครงการมา กล่าวคือตารางเมตรเริ่มต้น 1.7-2 แสนบาท จากที่ผ่านมามีแบรนด์ "เดอะคีย์" ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 6-7 หมื่นบาท และ "เดอะรูม" ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 1.1-1.3 แสนบาท

รายละเอียดโครงการเป็นตึก สูง 50 ชั้น จำนวน 468 ยูนิต แบบ 1-2 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนดูเพล็กซ์ ราคายูนิตละ 10.49-40 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 7 พันล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการใช้ชีวิตในเมืองอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% ตั้งเป้าปิดการขายได้ภายใน 2 ปีก่อนที่อาคารจะสร้างเสร็จประมาณปี 2560

"จริง ๆ แล้วเดอะแบงค็อก สาทรจะต้องเปิดตัวตั้งแต่ปลายปี"54 แต่ตอนนั้นเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่จึงเลื่อนออกไปก่อน ต่อมาปี"55 คุณอนันต์ อัศวโภคิน เปลี่ยนนโยบายให้คอนโดฯทุกโครงการของบริษัทจะต้องผ่านรายงานการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ และจะต้องได้ตัวผู้รับเหมาก่อสร้างก่อนจะเปิดตัวโครงการ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและรู้ต้นทุนล่วงหน้า จึงเลื่อนโครงการมาเปิดตัวปีนี้"

นายอดิศรกล่าวอีกว่า ทำเลสาทรในปัจจุบันมีซัพพลายคอนโดฯระดับไฮเอนด์ไม่มาก โครงการในละแวกนี้ อาทิ ริทึ่มสาทร, เซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์ ฯลฯ เนื่องจากที่ดินผืนใหญ่ที่จะพัฒนาโครงการหาได้ยากและราคาสูงมาก ปัจจุบันตั้งราคาขายที่ดินตารางวาละ 1-1 ล้านต้น ๆ หากพัฒนาคอนโดฯก็ต้องมีราคาไม่ต่ำกว่าตารางเมตรละเกือบ 2 แสนบาท

ทั้ง นี้ มองว่าตลาดคอนโดฯระดับไฮเอนด์ทำเลใจกลางเมืองยังไม่เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย หรือฟองสบู่ เพราะบางทำเลก็มีซัพพลายเหลือขายน้อย ส่วนบางทำเลที่มียูนิตเหลือขายค่อนข้างมากก็ยังไม่พบว่ามีการอัดโปรโมชั่น แรง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และส่วนใหญ่จะปิดการขายได้ก่อนที่โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จ

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  (18  มิถุนายน  2556)

ร่วมแสดงความคิดเห็น