เลือกตู้เย็นให้เหมาะกับบ้าน ช่วยประหยัดพลังงาน และค่าใช้จ่าย

 เครื่องใช้ไฟฟ้าในตัว เรือน เป็นอีกหนึ่งอย่างที่คุณต้องใส่ใจในการเลือกซื้อหาเข้าสู่บ้าน คุณต้องฉลาดที่จะซื้อ ฉลาดที่จะเลือก เพราะถ้าคุณเลือกสินค้าที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะกับการใช้งาน ก็จะช่วยในเรื่องของการประหยัดไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคุณไปได้มากทีเดียว คุณรู้หรือไม่ว่าในหนึ่งวันคุณจะเปิดตู้เย็นเฉลี่ยวันละประมาณ 20 ครั้ง ในหนึ่งปีเราจะเปิดตู้เย็นประมาณ 8000 ครั้ง ต่อ ตู้เย็น 1 เครื่อง หากคำนวณเป็นค่าไฟฟ้าก็หนักเอาการทีเดียว

เมื่อพูดถึงการเลือก ซื้อตู้เย็น ซึ่งถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ ตู้เย็นที่คุณจะเลือกซื้อ อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ ต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อเป็นการการันตีในเรื่องของการประหยัดไฟ นอกจากนี้ตู้เย็นควรจะลายน้ำแข็งในตู้เย็นสม่ำเสมอ การปล่อยให้น้ำแข็งจับหนาจนเกินไปจะทำให้เครื่อง ต้องทำงานหนัก ทำให้กินไฟมาก

การเลือกซื้อตู้เย็น ประตูเดียว จะประหยัดไฟมากกว่า 2 ตู้ เนื่องจากตู้เย็น 2 ประตู จะกินไฟมากกว่าตู้เย็นประตูเดียวที่มีขนาดเท่ากัน เพราะต้องใช้ท่อน้ำยาทำความเย็นที่ยาวกว่าและใช้คอมเพรสเซอร์ขนาดใหญ่กว่า

ควรตั้งสวิตซ์ควบคุม อุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม การตั้งที่ตัวเลขต่ำเกินไปอุณหภูมิจะ เย็นน้อย ถ้าตั้งที่ตัวเลขสูงจะเย็นมาก เพื่อให้ประหยัดพลังงานควรตั้งที่เลขต่ำที่มีอุณหภูมิ พอเหมาะ

การจัดวางตู้เย็นให้ เหมาะสมกับพื้นที่ในบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับคุณ การเว้นระยะห่างให้เหมาะสมกับผนังบ้าน ควรวางตู้เย็นให้ห่างจากผนังทั้ง ด้านหน้า, ด้านหลัง, ด้านข้าง ไม่ต่ำกว่าข้างละ 15 เซนติเมตร เพราะ พอตู้เย็นทำงานร้อนๆ พออยู่ใกล้กำแพงมากไป การระบายความร้อนก็จะไม่ดี พอความร้อนสะสม ตู้เย็นก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น และทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลงตามไปด้วยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อตู้ เย็นเข้าบ้าน คุณควรพิจารณาขนาดให้เหมาะสมกับขนาดครอบครัว โดยคำนวณจากสมาชิกครอบครัว ขนาด ๒.๕ คิวต่อสมาชิก ๒ คนแรกของครอบครัวแล้วเพิ่ม ๑ คิวต่อ ๑ คน คุณควรเลือกตู้เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนหนา และเป็นชนิดโฟมอัด เพื่อไม่ให้มีการสูญเสียความเย็นมากตู้เย็นชนิดที่ไม่มีน้ำแข็งจับจะกินไฟ มากกว่าชนิดที่มีปุ่มกดละลายน้ำแข็ง และควรเลือกตู้เย็นที่ใช้กับระบบไฟฟ้า ๒๒๐ – ๓๓๐ โวลต์ เท่านั้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณ
และ การเปิดปิดตู้เย็นนั้น ไม่ควรเปิดบ่อยเกินความจำเป็น เพราเมื่อเราเปิดตู้เย็นทิ้งไว้ ความเย็นภายในตู้จะออกมาภายนอก ขณะที่ความร้อนภายนอก จะไหลเข้ามาแทนที่ ภายในตู้เย็นจึงอุ่นขึ้น และตู้เย็นจะใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อการทำความเย็นใหม่  ส่วนการใส่สิ่งของในตู้เย็นนั้น ไม่ควรใส่มากจนเกินไป และสิ่งที่จะนำใส่ตู้เย็นไม่ควรเป้นของร้อน เพราะจะเพิ่มการทำงานของตู้เย็นให้หนักมากขึ้น

ที่กล่าวมาเบื้องต้น เป็นวิธีการเลือกซื้อตู้เย็นอย่างง่ายๆ ที่จะช่วยในการประหยัดไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายของคุณ ขึ้นอยู่กับคุณจะนำวิธีการแบบไหนไปใช้ให้เหมาะกับสภาพบ้านและครอบครัวของคุณ แล้วในคราวหน้าจะมาแนะนำการเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นอื่นๆ กันอีกครับ

ที่มา: http://www.homepro.co.th/hometips/tipdetail.asp?tid=15&id=6

ร่วมแสดงความคิดเห็น