เรื่องเกี่ยวกับผนัง

นายสวยงาม
   เขียนอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับบ้านไปแล้วยังขาดอะไรบ้างหนอ จำได้ว่าคราวก่อนเขียนเรื่องพื้นไปแล้ว เอาล่ะครับกระผมนายสวยงาม ตกลงใจเขียนเรื่องผนังก็แล้วกัน "พื้น" มีไว้รองรับตัวเรา "ผนัง" ก็มีไว้กันเรา จากการสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนบ้าน เอ๊ะ ! ผมเขียนไปได้อย่างไรนี่ "ผนัง" ก็มีไว้กันแดดกันลมและกันอุจาดนะครับ

    ผนังเป็นส่วนที่ตั้งอยู่บนพื้น ด้านหนึ่งอยู่ภายนอกบ้านและอีกด้านอยู่ภายในบ้าน ยกเว้นผนังกลางบ้านที่ทั้งสองด้านอยู่ในบ้าน ที่เราจะมาคุยกันในวันนี้จะเกี่ยวกับวัสดุตกแต่งผนัง เน้นนะครับว่าเป็นภายในบ้าน วัสดุที่ใช้ตกแต่งผนังมีอยู่มากมายหลายชนิด เรามาลองดูไปพร้อมๆ กันดีกว่า อย่างแรกที่นึกถึงก่อนเพื่อนก็คือ สี สีทาผนังแบ่งเป็นสีทาภายในอาคาร และสีทาภายนอกอาคาร แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแค่สองชนิดนี้เท่านั้น ยังมีสีน้ำมันและอื่นๆ อีกหลายชนิดตามแต่การใช้งาน ในปัจจุบันสีตามตัวอย่างสีจะผสมเรียบร้อยบรรจุลงกระป๋องพร้อมเปิดใช้ก็มีให้ เลือกมากมายหลายสีหรือถ้ายังไม่พอใจก็สามารถเลือกสีอื่นให้เขาผสมให้ใหม่ตาม ต้องการได้ และไม่ต้องกลัวเรื่องสีไม่พอแล้วสั่งเพิ่มภายหลังสีจะเพี้ยน เพราะเขาจะมี CODE ของสีที่ผสมติดอยู่เพื่อการสั่งในครั้งต่อไป สีที่ทาภายนอกอาคารสามารถอนุโลมใช้ทาภายในอาคารได้ส่วนสีทาภายในอาคารใช้ทา ภายนอกไม่ได้เพราะเนื้อสีไม่ทนแดดทนฝน สีทาภายในนั้นเลือกชนิดที่เขาคุยว่าสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้จะยิ่งดีนะ ครับ บ้านเราอยู่อาศัยนี่ครับก็ย่อมเปรอะเปื้อนได้ และยิ่งคุณๆ ที่เพิ่งมีลูกเล็กๆ ด้วยแล้ว สนุกแน่ๆ ครับการเลือกเฉดสีที่จะมาทานั้นถ้าคุณๆ ที่จะตกแต่งบ้านเองให้เลือกสีอ่อนเข้าไว้ เพื่ว่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่คุณเลือกมาจะได้ดูผสมกลมกลืนกันได้ แต่ไม่แนะนำสีเทาอ่อนที่ทำให้ดูหม่นเศร้าบ้านควรจะให้ความรู้สึกสบาย แจ่มใส น่าอยู่ ถ้าเกิดว่าอยู่ไปนานๆ แล้วบ้านดูหมอง ส่วนหนึ่งมาจากฝุ่นที่เข้าไปแทรกอยู่ในพื้นที่ว่างของสี ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการเช็ดล้าง แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็อาจจะทาสีทับไปเลยก็ได้

   จาก "สี" เราก็มีวัสดุที่จะแนะนำต่อไปคือ กระดาษปิดฝาผนัง หรือที่เราจะเรียกทับศัพท์ว่า "วอลล์เปเปอร์" (Wallpaper) และบางทีก็เรียกตามชาวบ้านว่า "วอลล์" (Wall) อันว่ากระดาษปิดฝาผนังก็ตรงตามศัพท์คือกระดาษปิดที่ฝาผนัง มีทั้งแบบสีพื้นคือไม่มีลวดลายพิมพ์อยู่บนเนื้อกระดาษ แต่อาจจะมีลายที่พื้นผิว กระดาษปิดฝาผนังมีให้เลือกมากมายหลายสี มีหลากหลายลวดลายเช่นเดียวกัน บางลวดลายก็เหมาะใช้เฉพาะห้อง เช่น ห้องเด็ก นอกจากนั้นยังมีการออกแบบให้มีลายขอบใช้ติดส่วนบนสุดหรือช่วงกลางผนังแล้วแต่จะออกแบบ แต่ถ้าคิดไม่ออกนะครับไม่ยาก ในสมุดตัวอย่างจะมีรูปภาพแสดงวิธีการติดตังแบบต่างๆลอกได้เลยครับ
    ข้อดีของกระดาษปิดฝาผนังคือใช้เวลาติดตั้งไม่นานมากนัก พอติดตั้งเสร็จก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่การติดตั้งต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เช่น ติดตั้งบัวพื้น บัวเพดานให้เรียบร้อย บัวพื้นและบัวเพดานจะเป็นตัวช่วยให้การติดตั้งกระดาษปิดฝาผนังดูเรียบร้อย การเก็บปลายกระดาษเป็นไปได้ง่าย ข้อเสียของกระดาษปิด ฝาผนังก็คือถ้าเกิดอาการเบื่อหรือรู้สึกว่าเก่าไปแล้วจะเปลี่ยนใหม่จะ ลอกของเก่าออกก็ลำบาก และบางทีมีกาวหลงเหลือที่ผนังก็ยากแก่การจัดการ จนบางครั้งถ้าสภาพ ของเก่ายังดีอยู่ก็อาจจะปิดทับไปเลย ถ้าท่านใดสนใจก็เลือกใช้ได้เลยไม้ เป็นอีกชนิดหนึ่งที่มีการนำมาใช้ตกแต่งผนัง ทั้งที่ใช้เฉพาะบางที่ เช่น เป็นบัวพื้น บัวเพดาน หรืออาจจะใช้ตกแต่งทั้งผนัง ปัจจุบันนี้ไม้มีราคาแพงมากฉะนั้นการตกแต่งด้วยไม้แท้ๆนั้นต้องลงทุนอย่าง มาก ถ้าท่านมีทุนน้อยก็ลองใช้ไม้เทียมหรือทำเทียมไม้ก็ได้ แต่นั่นแหละครับ ราคาแพงกว่าทาสีมาก การใช้ไม้ ในงานตกแต่งจะใช้เพื่อสร้างบรรยากาศแบบชนบท หรือไม่ก็บรรยากาศแบบหรูหรา ข้อดีของไม้คือทำให้รู้สึกว่าอยู่ใกล้ธรรมชาติ(อันนี้คิดเองครับ) แต่ข้อเสียอย่างแรกคือ"แพง" อย่างที่สองคือ "ผุ" จะผุโดยธรรมชาติหรือผุเพราะปลวกกินก็ตาม ถ้าท่านเลือกใช้ลองพิจารณาดูก่อน แต่ถ้าไม่แน่ใจโทรศัพท์มาถามผมได้ครับ

    ที่ต้องไม่ลืมเขียนถึงก็คือ กระเบื้อง บริเวณที่มักจะใช้กระเบื้องตกแต่งก็คือห้องน้ำกับห้องครัว และผนังร้านก๋วยเตี๋ยว (อันนี้ไม่เกี่ยวกับบ้านครับ) ผนังที่ปูกระเบื้องนั้นจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ จะเอาแปรงถู เอาน้ำยาทำความสะอาดล้างได้เลย แต่ในปัจจุบันนี้กระเบื้องได้ถูกออกแบบให้มีความหลากหลายมากขึ้น บางชนิดสามารถนำมาโชว์ในห้องรับแขกได้เลยนอกจากนั้นมาตรฐานการผลิตก็ดีขึ้น ด้วย ทำให้กระเบื้องแต่ละแผ่นมีขนาดเท่ากัน บางชนิดปูชนกันได้เลย โดยไม่ต้องเว้นร่องยาแนว บางชนิดก็ถูกออกแบบให้มีพื้นผิวคล้ายวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน เทคนิคการเคลือบ และการออกแบบลวดลายดูดีกว่าเดิมเข้ากันได้ดีกับงาน ตกแต่งภายในส่วนอื่นๆ ดังนั้นกระเบื้องจึงพากันเดินพาเหรดมาอยู่ที่ผนังส่วนต่างๆ ของบ้านแต่ปัญหาของการใช้กระเบื้องคืองานกรเบื้องเป็นงานเปียกต้องมีการ เตรียมการ ที่จะปูรวมทั้งเตรียมพื้นผิวผนังที่เหมาะสมจะปูด้วย และถ้าจะติดรูปภาพก็จะลำบากหน่อย การซื้อกระเบื้องต้องซื้อเกินไว้ประมาน 5-10% เผื่อตัดแล้วเผื่อแตก และถ้ากระเบื้องไม่พอก็อาจจะหาซื้อเพิ่มไม่ได้หรือได้กระเบื้องที่ผลิตคนละ ที สีอาจจะไม่เหมือนกัน ก่อนที่จะปูท่านควรวางแผนสักนิด โดยจัดให้มีเศษเป็นชิ้นใหญ่สองด้านของผนังดีกว่าปูเต็มแผ่นด้านหนึ่งแล้วไป เหลือเศษชิ้นเล็กๆ อีกด้านหนึ่งอย่าลืมน่ะครับวางแผนก่อนปู หิน ก็หินสมชื่อ เดี๋ยวนี้มีการเลือกใช้หินตกแต่งผนังกันอยู่มาก หินก็เป็นเช่นเดียวกับกระเบื้องคือต้องมีการวางแผนที่จะปูไว้ล่วงหน้า และอาจจะต้องคิดมากกว่า ถ้าจะปูด้วยหินธรรมชาติปัญหาของหินธรรมชาตินั้นมีอยู่หลายประการครับ เช่น ความสม่ำเสมอของลาย สีสันไม่เท่ากัน 100 % และอาจจะมีการซึมของน้ำ สองอย่างแรก คงต้องปล่อยเลยตามเลยคตรับ แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เรื่องของน้ำนั้นเราสามารถป้องกันได้ โดยการทาน้ำยากันซึกที่ด้านหลังและขอบโดยรอบก็พอช่วยได้ หินที่นิยมใช้กันนั้น ก็มีหินอ่อนซึ่งอ่อนสมชื่อ มีหินอ่อนไม่กี่ชนิดที่จะมีเนื้อแกร่ง ความสวยของหินอ่อนอยู่ที่เมื่อปูเสร็จเรียบร้อยแล้วจะดูหรูหรานุ่มนวลถ้าชอบ ก็เลือกใช้กันน่ะครับ ถัดมาคือหินแกรนิตลักษณะเด่นของหินชนิดนี้ก็คือมีลายเป็นรูปเม็ดหินอยู่ใน เนื้อ มีความแกร่งมากกว่าหินอ่อน มีหลายสีให้เลือกใช้ และมีที่มาจากหลายประเทศรวทั้งของในประเทศไทยเราด้วยเมื่อปูเสร็จแล้วจะดู เคร่งขรึมจริงจังมกากว่าหินอ่น (เหมาะสำหรับบ้านนายธนาคารครับ) นอกจากนั้นยังมีหินทราย หินกาบ ซึ่งให้บรรยากาศแบบชนบทมากกว่า คุณๆที่จะตกแต่งบ้านแบบนี้ก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ นอกจากหินแท้แล้วหินเทียมก็ยังได้รับความนิยมนำมาใช้งาน ข้อดีของหินเทียมคือมีหลายสี แม้แต่สีที่ในธรรมชาติน้อยมากหรือไม่มีเลยมีความสม่ำเสมอของสีสันและลวดลาย โอกาสแตกมีน้อย แต่โดยทั่วไปมีการใช้ตกแต่งผนังอยู่ส่วนน้อย ถ้าจะมีก็จะเป็นภายในห้องครัวเป็นส่วนใหญ่กระจกเงา มิได้มีไว้ส่องดูเงาตัวเองอย่างเดียวน่ะครับยังนำมาตกแต่งผนังได้ด้วย และใช้ได้ทั้งงานประเภทสมัยใหม่และประเภทอื่นๆ จุดประสงค์ของการนำกระจกมาใช้ ก็เพื่อทำให้ห้องที่ดูแคบจะรู้สึกกว้างขึ้น และช่วยแก้ความรู้สึกทึบตันของผนังได้ กระจกเงาเราที่เราใช้ส่องหน้าอยู่ทุกวันเป็นสีขาว แต่ก็ยังมีการผลิตสีอื่นๆอีกครับเช่น สีชา สีทองถ้าห้องที่คุณกำลังตกแต่งนั้นมีขนาดเล็ก คุณควรเลือกกระจกที่มีสีจะดีกว่าจะได้ไม่รู็สึกถูกหลอกหลอน แต่ถ้าห้องขนาดใหญ่จะใช้กระจกเงาสีขาวก็ได้ เพราะตัวเราจะมีระยะห่างจากกระจกค่อนข้างมาก นอกจากจะใช้ กระจกเงาๆเรียบๆแล้วคุณๆ อาจจะเพิ่มลวดลายลงบนกระจกได้อีกด้วย จะด้วยวิธีการพ่นทรายหรือแกะลายลงสีได้อีกด้วย

   นอกจากกระจกเงาแล้วก็ยังมีกระจกชนิดอื่นๆ เช่น กระจกใสที่ใช้กั้นระหว่างห้องทำให้มองเห็นกันได้ แต่ถ้าไม่อยากเห็นกันชัดนักคุณก็สามารถพ่นทรายหรือแกะลายได้เช่นเดียวกับ กระจกเงา ยังมีการตกแต่งขอบกระจกโดยการเจียขอบให้เอียงที่เรียกกันว่า "เจียปลี" ซึ่งทำให้มีมุมสะท้อนแสงมากขึ้นและยังมีกระจกสีต่างๆ ที่ทำให้มีพื้นผิวเป็นลวดลายต่างๆมีคุณสมบัติที่แสงผ่านได้ แต่จะเห็นรายละเอียดอีกด้านของกระจกไม่ชัดเจน ยังไม่พอมนุษย์เรายังคิดเทคการนำกระจกชิ้นเล็กๆมาต่อกันเป็นลวดลายต่างๆ โดยมีเส้นตะกั่วเป็นตัวยึดที่เรียกว่า Stained Glass ยังมีกระจกอีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้เขียนถึง เพราะมีที่ใช้น้อย เห็นไหมครับคุณๆ กระจกที่ใช้ในงานตกแต่งภายในมีนานาชนิดและมีวิธีทให้ใช้ในงานตกแต่งได้ หลายๆแบบนี่เขียนแบบย่อๆ น่ะครับถ้าขยายความก็อีกยาว ผ้า ก็เป็นอะไรที่เรานำมาใช้ตกแต่งผนังได้เหมือนกันโดยมากจะใช้ไม้อัดบุฟองน้ำ แล้วหุ้มผ้าและนำมาติดที่ผนังให้ความรู้สึกนุ่มนวลดี ที่พระตำหนักดอยตุงของสมเด็จย่า มีการตกแต่งผนังด้วยผ้าปักลายดอกไม้อันปราณีตสวยงามมาก ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวลองสังเกตดูนะครับ โดยทั่วๆไปผ้าถูกนำมาใช้ตกแต่งผนังอยู่แล้วในรูปของผ้าม่าน ซึ่งผ้าม่านจะมีทั้งสีพื้ร มีลวดลาย มีแบบวิธีการเย็บการติดตั้งอยู่หลากหลายชนิด เลือกได้ตามใจชอบ เรื่องผ้าม่านนี้ถ้าได้มีโอกาสจะพยายามรวบรวมมาเขียนให้อ่านกันครับ
     วัสดุตกแต่งผนังยังมีอยู่อีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้เขียนถึงที่เขียนมาก็เป็น แบบน่อพอให้เกิดความคิด แต่ถ้าคุณๆ จะตกแต่ง บ้านแล้วละก็ ลองๆ หาข้อมูลก่อนบ้านเสร็จ วางแผนที่จะทำอะไรอย่างไรจะดีกว่าครับ ผมขอลา ณ ตรงนี้น่ะครับ แล้วพบกัน สวัสดีครับ

ที่มา http://www.yellowgreenthailand.com/article/topic.php?id=ART1000374

ร่วมแสดงความคิดเห็น