ใครก็ตามที่มีอาการภูมิแพ้ คงจะทราบดีว่าน่ารำคาญขนาดไหนที่ต้องตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับน้ำมูก และเสียงจาม ผู้เขียนไม่ทราบหรอกว่าความรู้สึกของคนที่เป็นจะรุนแรง รำคาญขนาดไหน รู้แต่ว่าคุณสามีจะบ่นเข้าหูเสมอ ตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน และตอนที่สร้างเรือนหอเขาก็ขออย่างเดียวว่าช่วยสร้างห้องสำหรับคนเป็นภูมิแพ้นะ! โดยที่เหลือจากนี้จะทำอะไร ยังไงตามใจทั้งหมด หลังจากที่เราได้อยู่ห้องนี้ด้วยกันมาใกล้จะครบปีแล้วก็รู้สึกว่า อาการภูมิ แพ้ของสามีลดลงมาก จึงขอแบ่งปันสิ่งที่อาจทำให้ท่านที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกันทุเลาลงได้
1. สิ่งแรกที่ทำคือให้ห้องมีอากาศถ่ายเท โดยปกติเรามักจะนอนเปิดแอร์นอนเพราะสบายตัว ให้เปลี่ยน มาใช้พัดลมสักเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อให้อากาศภายในห้องมีการหมุนเวียน แต่ต้องระวังอย่าไปนอน ใต้พัดลมเข้าล่ะ
2. สิ่งต่อมาคือเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น พื้นไม้ปาร์เก้ และกระเบื้องเป็นวัสดุปูพื้นห้องที่ทำความสะอาดได้ง่าย เลี่ยงการใช้พรมโดยเด็ดขาด เพราะจะอมฝุ่น เพิ่มความรุนแรงของโรคโดยไม่รู้ตัว
3. ผนังห้องใช้การทาสี และติดรูปแทนเพื่อไม่แนะนำให้ติดวอล์เปเปอร์ ใครที่คิดอยู่ขอให้เลิกยิ่งเป็นวอล์เปเปอร์ ราคาถูกยิ่งไม่แนะนำ แต่ถ้าอยากจะใช้จริง ๆ กรุณาลงทุนใช้วอลล์เปเปอร์ที่เป็นวัสดุธรรมชาติ ผ้า และกระดาษ เท่านั้น ซึ่งราคาอาจจะสูงกว่าปกติ
4. เตียงมีผ้าคลุมเรียบร้อยเพื่อกันฝุ่นไปจับตัวที่ตัวเบาะที่นอน หมอน ผ้าห่ม เราต้องใช้ผ้าคลุมเตียงทุกวัน เราเลยได้ข้ออ้างเลือกผ้าคลุมเตียงสวยๆมาใช้ โชคดีของผู้เขียนได้ของขวัญแต่งงานจากกองบก. เป็นผ้าปูเตียง ลายดอกไม้น่ารักมาก ไม่แนะนำให้เป็นเตียงสี่เสาแบบมีผ้าคลุมคล้ายมุ้งนะค่ะ เพราะเก็บกักฝุ่นเหลือเกิน
5. ตู้ต่างๆทั้งตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของต่างๆเราเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้อัด เราไม่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป เนื่องจากใช้ไม้ประเภทพาร์ติเคิ้ลบอร์ ดนั้นมีสารประเภท Formaldehyde เป็นสารพิษที่มีผลต่อระบบ ทางเดินหายใจ เนื่องจากประเภทที่ปลอดสารไม่มีขายในไทย หากท่านมีเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ในบ้านให้ท่าน เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทบ่อยๆ ก็พอช่วยได้
6. ม่านหน้าต่างเราเลือกใช้ม่านม้วนแทนม่านแบบอื่นๆเพื่อลดพื้นที่เก็บฝุ่นให้น้อยที่สุด เนื่องจากวัสดุที่ใช้ ทำม่านม้วนเป็นวัสดุสังเคาระห์ที่มีผิวค่อนข้างเรียบ ง่ายต่อการทำความสะอาดบ่อยๆต่างจากผ้าที่มีเส้นใย เป็นการสาน จากการเย็บไม่มีจีบหรือรอยย่นเพื่อเก็บฝุ่น และทำความสะอาดยากกว่ามาก
7. เปลี่ยนนิสัยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวด ล้อมที่มีส่วนผสมของวัสดุธรรมชาติ และใช้สิ่งที่มีสารเคมีน้อยลงและไม่ใช้ทุกวัน เช่นทำความสะอาดห้องน้ำด้วยน้ำยาเคมีวันเว้นวัน
8. รักษาบ้านให้สะอาดเสมอและดูแลให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
สุดท้ายต้องไม่ลืมออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอและดูแลอาหารการกินควบคู่ไปด้วยค่ะ รับรองว่าจะชนะ อาการภูมิแพ้ได้แน่นอน .... ขอให้สุขภาพดีค่ะ
ขอบคุณที่มา : http://www.home.co.th
TAG : |